อิตาลีรับรองแผน Belt and Road ของจีน
เมื่อวันที่ 23 มี.ค.อิตาลีรับรองแผนโครงสร้างพื้นฐาน Belt and Road ของจีน นับเป็นชาติตะวันตกชาติแรกที่สนับสนุนโครงการริเริ่มเพื่อช่วยฟื้นฟูคืนชีวิตเศรษฐกิจให้อิตาลี
พิธีลงนามเมื่อวันที่ 23 มี.ค.เป็นไฮไลท์ของทริปการเยือนอิตาลีนาน 3 วันของประธานาธิบดีสีจิ้นผิงของจีน โดยทั้งสองชาติสนับสนุนความสัมพันธ์ระหว่างกันในเวลาที่สหรัฐฯยังคงติดอยู่ในสงครามการค้ากับจีน
การกระชับมิตรครั้งนี้ทำให้สหรัฐฯไม่พอใจและเตือนชาติพันธมิตรในสหภาพยุโรป ซึ่งกลัวว่าจะทำให้จีนเข้าถึงเทคโนโลยีที่อ่อนไหวและฮับคมนาคมที่สำคัญได้มากขึ้น
ลุยจิ ดิ ไมโอ รองนายกรัฐมนตรีของอิตาลีลดระดับความกังวลลง ด้วยการกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า แม้อิตาลีจะยังคงมีข้อผูกพันกับประเทศคู่ค้าตะวันตก แต่ทำให้อิตาลีเป็นประเทศแรกที่มีความสัมพันธ์เชิงพาณิชย์กับจีน
“ นี่สำคัญมากสำหรับเรา เป็นวันที่เมดอินอิตาลีชนะ อิตาลีชนะ และบริษัทอิตาเลียนชนะ” ดิไมโอ ซึ่งลงนามใน MOU ในนามของรัฐบาลอิตาลีใน Renaissance villa
ความได้เปรียบจากการมาเยือนของประธานาธิบดีสี บริษัทในอิตาลีลงนามในข้อตกลงกับบริษัทคู่ค้าจากจีนที่มีมูลค่าเบื้องต้น 2,500 ล้านยูโร ดิไมโอระบุว่า สัญญาเหล่านี้จะมีศักยภาพ มีมูลค่าในอนาคตอยู่ที่ประมาณ 20,000 ล้านยูโร
Belt and Road Initiative (BRI) เป็นหัวใจของยุทธศาสตร์นโยบายต่างประเทศของจีน และเป็นความร่วมมือกับสถาบันพรรคคอมมิวนิสต์ในปี 2560 สะท้อนถึงความต้องการของประธานาธิบดีสีที่มีต่อประเทศจีนเพื่อแสดงบทบาทเป็นผู้นำโลก
สหรัฐฯกังวลว่า เป็นการวางแผนเพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับอิทธิพลของกองทัพจีน และสามารถใช้เพื่อกระจายเทคโนโลยีที่สามารถสอดแนมผลประโยชน์ของชาติตะวันตก
รัฐบาลประชานิยมของอิตาลี มีความกระวนกระวายที่จะดันเศรษฐกิจให้ออกจากภาวะชะงักงันครั้งที่ 3 ในรอบทศวรรษ โดยไม่สนใจเสียงเรียกร้องจากทางวอชิงตันให้หลบเลี่ยง BRI และปูพรมแดงให้เกียรติต้อนรับประธานาธิบดีสีอย่างประเทศพันธมิตรที่ใกล้ชิดที่สุด
ผู้นำประเทศในอียูยังได้เตือนอิตาลีในสัปดาห์นี้ไม่ให้รีบโผเข้าหาอ้อมกอดของจีน โดยประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครงแห่งฝรั่งเศสระบุเมื่อวันที่ 22 มี.ค.ว่า ความสัมพันธ์กับปักกิ่งต้องไม่อยู่บนพื้นฐานการค้าเป็นเรื่องแรกสุด
อย่างไรก็ตาม ไม่มีการเห็นพ้องกันอย่างเป็นเอกฉันท์ในการสนับสนุนข้อตกลง BRI ภายในรัฐบาลผสมของอิตาลี โดยรองนายกรัฐมนตรีมัตเตโอ ซัลวินี ซึ่งเป็นหัวหน้าพรรคการเมืองฝ่ายขวา เตือนถึงความเสี่ยงที่จีนจะครอบงำตลาดอิตาเลียน
อิตาลีขาดดุลการค้ากับจีนถึง 17,600 ล้านยูโรในปี 61 และดิไมโอระบุว่า เขาตั้งเป้าที่จะลดจำนวนการขาดดุลการค้าลงโดยเร็วที่สุด
หลังจากการพูดคุยกับนายกรัฐมนตรีจูเซปเป กอนเต และรองนายกฯ ดิไมโอในช่วงเช้า ประธานาธิบดีสีเดินทางไปเมืองปาเลอร์โมเป็นการเยือนส่วนตัวช่วงบ่ายของวันที่ 23 มี.ค.
โดยผู้นำจีนมีกำหนดเดินทางไปมอนติคาร์โลในวันที่ 24 มี.ค.ก่อนจะเสร็จสิ้นทัวร์ยุโรปในฝรั่งเศส ซึ่งเขามีกำหนดพูดคุยกับประธานาธิบดีมาครง และนายกรัฐมนตรีอังเกลา แมร์เคิลแห่งเยอรมนี.