การลดภาษีของทรัมป์หนุนศก.สหรัฐฯไม่นาน
การปฏิรูปภาษีจำนวน 1.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ริเริ่มในปี 60 ช่วยหนุนเศรษฐกิจอเมริกัน แต่ผลกระทบด้านบวกของการลดภาษีนิติบุคคลและบุคคลจะคงอยู่ได้อีกไม่นาน อ้างอิงจากความเห็นของนักเศรษฐศาสตร์ที่ชนะรางวัลโนเบล
เศรษฐกิจสหรัฐฯ ดีขึ้นในช่วงปีที่ผ่านมา โดยบางส่วนได้อานิสงส์จากการลงทุนของธุรกิจที่เพิ่มขึ้นหลังจากนโยบายลดภาษีของประธานาธิบดีทรัมป์ แต่ผลกระทบเช่นนี้จะคงอยู่ได้นานที่สุดคือ 2 ปี Edmund Phelps อาจารย์ประจำมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย
“ เราอยู่ในช่วงบูม แต่สิ่งที่บูมที่สุดก็ต้องมีเวลาที่จบลง ผลผลิตในระดับสูงและการจ้างงานไม่อาจคงอยู่ได้อย่างยั่งยืน ” เขากล่าวกับสำนักข่าว CNBC ในวันที่ 24 มี.ค.ในการประชุมการพัฒนาจีนในกรุงปักกิ่ง
Phelps ซึ่งเป็นผู้ชนะรางวัลโนเบลสาขาเศรษฐศาสตร์ประจำปี 2549 สำหรับงานของเขาที่เกี่ยวกับผลกระทบในระยะสั้นและระยะยาวของนโยบายเศรษฐกิจ
“ ผมเซอร์ไพรส์หากระดับการลงทุนที่เพิ่มขึ้นยังคงมีอยู่ต่อไป บางทีอาจจะอีกหนึ่งปี มากที่สุดก็สองปี หลังจากนั้น ผมคิดว่าเรากำลังจะทรุดลงลงมาอยู่ที่ระดับปกติทั้งการจ้างงานและอัตราการว่างงาน”
ก่อนหน้านี้ ธนาคารกลางสหรัฐฯ ออกโรงเตือนว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ ในปีนี้จะมีการเติบโตที่ชะลอตัวลงกว่าปีที่ผ่านมา
โดยธนาคารกลางระบุว่า เศรษฐกิจของยุโรปและจีนที่อ่อนแรงลงกำลังส่งผลกระทบด้านลบกับเศรษฐกิจของสหรัฐฯ มีการประเมินว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯจะเติบโต 2.1% ในปีนี้ ลดลงจากตัวเลขที่เคยคาดการณ์ไว้เดิมคือ 2.3% ขณะที่การเติบโตของปีที่แล้วคือ 2.9%
นอกจากนี้ นักวิเคราะห์หลายคนถึงกับทำนายว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯอาจอยู่ในภาวะชะงักงันภายในกลางปี 63 นี้.