สงครามสตรีมมิ่งเดือด ท้าทายเน็ตฟลิกซ์
บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านสื่อและเทคโนโลยีกำลังมุ่งเข้าสู่ธุรกิจสตรีมมิ่งกันอย่างคึกคัก ซึ่งจะเป็นความท้าทายอย่างมากกับผู้นำในตลาดอย่างเน็ตฟลิกซ์
โดยคาดการณ์ว่า แอปเปิลจะมีความเคลื่อนไหวในงานประกาศวันที่ 25 มี.ค. จากแผนมีเดียของบริษัท ด้วยจำนวนเงินลงทุนประมาณ 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และมีหุ้นส่วนอย่างเจนนิเฟอร์ อนิสตัน และ ผู้กำกับ เจ เจ อบรามส์ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคอนเทนต์
วอลต์ ดิสนีย์ ประกาศว่าจะมีการเปิดตัวบริการสตรีมมิ่งใหม่ ดีสนีย์ + ในปีนี้ รวมถึงอีกบริการจาก WarnerMedia ซึ่งเป็นบริการใหม่ด้านสื่อ-ความบันเทิงจาก AT&T
คาดการณ์ว่าจะมีผู้ให้บริการหน้าใหม่เข้ามาในธูรกิจ และเป็นความท้าทายครั้งสำคัญกับเน็ตฟลิกซ์ ซึ่งมีจำนวนสมาชิก 140 ล้านรายใน 190 ประเทศ และผู้ให้บริการรายอื่นอย่างอเมซอน และ ฮูลู
“ มันจะเปลี่ยนอุตสาหกรรมไปจริงๆ” Alan Wolk ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทที่ปรึกษา TVREV ซึ่งติดตามภาคส่วนนี้ โดยเขาระบุว่า เขามองเห็นผู้เล่น 7 หรือ 8 รายที่มีอิทธิพลในธุรกิจสตรีมมิ่ง ซึ่งจะนำไปสู่ “ การแข่งขันอย่างมหาศาลของโชว์ใหม่และโชว์ฮิต”
เฉพาะในสหรัฐฯ ประเมินว่ามีผู้บริโภค 6 ล้านรายที่เลิกใช้เพย์ทีวีตั้งแต่ปี 2555 ขณะที่บริการออน-ดีมานด์ เช่น เน็ตฟลิกซ์ ฮูลู และอเมซอนเติบโตอย่างพุ่งทะยาน อ้างอิงจาก Leichtman Research
เน็ตฟลิกซ์ทำลายวิธีการชมโทรทัศน์แบบดั้งเดิม และตอนนี้คู่แข่งกำลังเคลื่อนไหวเพื่อทำลายเน็ตฟลิกซ์ ที่จริง เน็ตฟลิกซ์มีแนวโน้มจะเจ็บปวด ไม่เพียงจากคู่แข่งรายใหม่ แต่จากการที่ต้องสูญเสียคอนเทนต์จากคลังภาพยนตร์ของดิสนีย์และไทม์ วอร์เนอร์
บริษัทฮอลลิวูดยักษ์ใหญ่เหล่านี้ “ มีคลังภาพยนตร์ขนาดใหญ่ และค่าใช้จ่ายสำหรับคอนเทนต์ของพวกเขาต่ำกว่าของเน็ตฟลิกซ์ ซึ่งต้องจ่ายซื้อทุกคอนเทนต์” ลอรา มาร์ติน นักวิเคราะห์จากบริษัทวิจัย Needham & Co
“เน็ตฟลิกซ์จะเสียสมาชิกให้กับผู้ให้บริการหน้าใหม่” มาร์ตินระบุ
AT&T WarnerMedia จะให้บริการในปีนี้ที่รวมคอนเทนต์จากช่อง HBO (ที่มีซีรีส์ดังระดับโลกอย่าง Game of Thrones) และคลังภาพยนต์และรายการโทรทัศน์ของไทม์วอร์เนอร์
บริการของดิสนีย์จะมีทั้งภาพยนตร์และรายการทีวี รวมกับลิขสิทธิ์ภาพยนตร์จาก Fox ซึ่งมีทั้ง สตาร์วอร์ส และภาพยนตร์แฟรนไชส์ซูเปอร์ฮีโรของมาร์เวล และคอนเทนต์ของสถานีโทรทัศน์ ABC
Alexia Quadrani นักวิเคราะห์จาก JP Morgan ทำนายว่า มีโอกาสที่ดิสนีย์จะขับเคลื่อนธุรกิจให้ใหญ่เท่าเน็ตฟลิกซ์ หรือใหญ่กว่าเมื่อมีสมาชิกในประเทศ 45 ล้านราย และในต่างประเทศ 115 ล้านราย
นักวิเคราะห์บางรายระบุว่า เน็ตฟลิกซ์ยังไม่มีเหตุผลที่ต้องตื่นตระหนก “เน็ตฟลิกซ์อ่านธุรกิจนี้ขาด รู้ว่าผู้บริโภคต้องการอะไร” Dan Rayburn นักวิเคราะห์สื่อสตรีมมิ่งประจำ Frost & Sullivan ระบุ
แต่ Rayburn ระบุว่าคู่แข่งอาจเพิ่มฐานสมาชิกและโครงสร้างเพื่อชิงความได้เปรียบจากเน็ตฟลิกซ์ “ เน็ตฟลิกซ์เป็นเจ้าของอะไรบ้าง ไม่มีเลย” เขากล่าว.