ถิ่นจอ ขึ้นเป็นผู้นำเมียนมา
นายถิ่นจอ นักเขียนผู้เป็นที่เคารพและเพื่อนคนสนิทของนางออง ซาน ซูจี ได้รับเลือกให้เป็นประธานาธิบดีของเมียนมาเมื่อวันที่ 15 มี.ค. โดยรัฐสภาที่พรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตยครองเสียงส่วนใหญ่
ฝ่ายนิติบัญญัติของเมียนมาได้มีมติเลือกมือขวาและเพื่อนคนสนิทของนางอองซาน ซูจี เป็นประธานาธิบดีคนแรกที่เป็นพลเรือนในรอบทศวรรษ หลังจากเมียนมาต้องอยู่ภายใต้การปกครองของกองทัพมาอย่างยาวนาน
นายอู ถิ่นจอ อายุ 69 ปี ชนะการเลือกตั้งไปด้วยคะแนน 360 คะแนนจากทั้งหมด 652 คะแนนจากทั้งสองสภาของเมียนมา นับเป็นการปูทางสำหรับนางอองซาน ซูจี เพื่อเป็นผู้มีบารมีเหนือประธานาธิบดีได้สำเร็จ
โดยนายถิ่นจอ จะกลายเป็นประธานาธิบดีคนแรกที่มาจากประชาชนในรอบทศวรรษ หลังจากเขาเข้ามาดำรงตำแหน่งแทนประธานาธิบดีเต็ง เส่ง ในเดือนหน้า
ส่วนนายมินต์ ฉ่วย ตัวแทนจากฝ่ายทหาร ซึ่งปัจจุบันเป็นหัวหน้าคณะรัฐมนตรีของย่างกุ้ง และนายอู เฮนรี วานเทียว ตัวแทนของชนกลุ่มน้อยจากพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย จะดำรงตำแหน่งเป็นรองประธานาธิบดี
สมาชิกผู้แทนราษฎรต่างปรบมือกันเกรียวกราวหลังจากสิ้นสุดการนับบัตรคะแนนเสียงที่ใช้เวลายาวนานในเมืองเนปิดอว์ และประกาศผลว่านายถิ่นจอ ได้รับชัยชนะและได้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี
โดยนายมานวิน เกียง ทัน โฆษกสภา กล่าวกับสมาชิกผู้แทนราษฎรว่า “ข้าพเจ้าขอประกาศว่า นายอู ถิ่นจอ ได้รับการเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีด้วยคะแนนมากที่สุด”
พรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย ได้รับคะแนนเสียงทั้งหมด 390 คะแนน ทั้งจากสภาสูงและสภาล่าง ในขณะที่ทหารและอดีตพรรคสหสามัคคีและการพัฒนา ได้รับคะแนนเสียงไปเพียง 207 คะแนน โดยอีก 60 คะแนนเสียงที่เหลือเป็นของพรรคอื่นๆ และพรรคชนกลุ่มน้อยเป็นส่วนใหญ่
ทั้งนี้ นายถิ่น จอ ได้เชิดชูชัยชนะจากการเลือกตั้งของเขาครั้งนี้ให้เป็นเกียรติประวัติทางประชาธิปไตยสำหรับนางอองซาน ซูจี
นายถิ่น จอ ผู้ได้รับมอบหน้าที่มาจากนางอองซาน ซูจี กล่าวกับผู้สื่อข่าวหลังจากได้รับเลือกตั้งว่า “เราชนะแล้ว! ชัยชนะครั้งนี้เป็นของพี่อองซาน ซูจี ขอบคุณครับ”
ทั้งนี้ เมียนมาได้มีการเปลี่ยนแปลงไปมากอย่างเหลือเชื่อ จากการถูกปกครองโดยเผด็จการทหารมาอย่างยาวนาน กลายเป็นประเทศที่มีประชาธิปไตยอย่างที่ประชาชนต้องการ
แต่ถึงอย่างนั้น ทางกองทัพก็ยังคงมีอิทธิพลกับประเทศมากที่สุด และยังคงปฏิเสธที่จะทำการเปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญ เพื่อขัดขวางนางอองซาน ซูจี ไม่ให้มีโอกาสได้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองใดๆ.