ดัชนี MPI ปี 65 ขยายตัว 0.62% คาดจีนเปิดประเทศดันจีดีพีอุตฯ เพิ่มขึ้น 0.30%
กระทรวงอุตสาหกรรม (อก.) เผยภาพรวมดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) ปี 2565 ขยายตัว 0.62% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ตอบรับการบริโภคในประเทศฟื้นตัว
หลังเศรษฐกิจในประเทศและการท่องเที่ยวขยายตัว สะท้อนจากตัวเลขนักท่องเที่ยวที่กลับเข้ามาในประเทศ ด้านภาพรวมการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรม ปี 2565 ขยายตัว 2.95% พร้อมคาดการณ์แนวโน้มภาคอุตสาหกรรมหลังนโยบายจีนเปิดประเทศเพิ่มรายได้แก่ประเทศไทย 200,000 – 300,000 ล้านบาท หนุนจีดีพีภาคอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น 0.30%
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม (อก.) เปิดเผยว่า ภาพรวมดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) ปี 2565 เฉลี่ยอยู่ที่ 98.32 ขยายตัว 0.62% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีอัตราการใช้กำลังการผลิตสะสมทั้งปี เฉลี่ยอยู่ที่ 62.61% เป็นผลจากการขยายตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจในประเทศและการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวดีขึ้น สะท้อนจากตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติที่กลับเข้ามาท่องเที่ยวในไทยเพิ่มขึ้น ขณะที่ภาพรวมการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรม (ไม่รวมทองคำ) ปี 2565 ขยายตัว 2.95% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนการนำเข้าสินค้าทุนปี 2565 ขยายตัว 2.48% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และการนำเข้าสินค้าวัตถุดิบและกึ่งสำเร็จรูป (ไม่รวมทองคำ) ปี 2565 ขยายตัว 6.43% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
นางวรวรรณ ชิตอรุณ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) กล่าวว่า ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) เดือนธ.ค. 2565 อยู่ที่ระดับ 93.89 โดยอุตสาหกรรมหลักที่ขยายตัวในเดือนธ.ค. 2565 ได้แก่ น้ำมันปาล์ม จากปริมาณผลผลิตปาล์มน้ำมันออกสู่ตลาดจำนวนมากกว่าปีก่อน ยานยนต์ จากรถยนต์นั่งขนาดกลางและรถยนต์นั่งขนาดเล็กที่ตลาดส่งออกขยายตัว และน้ำมันปิโตรเลียมที่กลับมาผลิตได้อีกครั้ง ทั้งนี้ คาดการณ์ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) เดือนม.ค.2566 มีปัจจัยบวกจากเศรษฐกิจในประเทศที่มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง หลังได้รับแรงส่งของภาคการท่องเที่ยวจากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าประเทศมีแนวโน้มสูงขึ้นตามลำดับ รวมถึงมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายช้อปดีมีคืน หนุนการบริโภคในประเทศจากความต้องการซื้อสินค้าเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ขณะที่ปัจจัยเสี่ยงที่ควรเฝ้าระวังและติดตาม ได้แก่ ราคาพลังงานที่อยู่ในระดับสูง อุปสงค์สินค้าในตลาดโลกจากการที่ตลาดส่งออกสำคัญและคู่ค้าหลักมีแนวโน้มเข้าสู่ภาวะชะลอตัว และค่าเงินบาทที่แข็งค่าส่งผลต่อการส่งออกไทย
ขณะเดียวกัน สศอ. ได้คาดการณ์ว่าอุตสาหกรรมในปี 2566 ที่มีแนวโน้มขยายตัวตามกระแสโลกและ ตามการฟื้นตัวของการท่องเที่ยว ได้แก่ ยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ อาหารและเครื่องดื่มที่เกี่ยวกับสุขภาพ เครื่องปรับอากาศเทคโนโลยีสูง เม็ดพลาสติกชีวภาพ เภสัชภัณฑ์ สิ่งทอเทคนิค และยางล้อรถประหยัดพลังงาน นอกจากนี้ สศอ. ได้ประเมินว่าจากนโยบายจีนเปิดประเทศจะส่งผลให้ภาคอุตสาหกรรมไทยมีรายได้จากนักท่องเที่ยวจีนเพิ่มขึ้นประมาณ 200,000 – 300,000 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้การบริโภคภายในประเทศเพิ่มขึ้น และส่งผลให้ผลิตภัณฑ์ภายในประเทศที่แท้จริงภาคอุตสาหกรรม (Real GDP of Manufacturing) เพิ่มขึ้น 0.30%
สำหรับอุตสาหกรรมหลักที่ส่งผลบวกต่อดัชนีผลผลิตในเดือนธันวาคม 2565 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ได้แก่
น้ำมันปาล์ม ขยายตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 33.44 จากผลิตภัณฑ์น้ำมันปาล์มดิบ และน้ำมันปาล์มบริสุทธิ์ จากในปีนี้ปริมาณผลผลิตปาล์มน้ำมันออกสู่ตลาดจำนวนมาก
ยานยนต์ ขยายตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 2.06 จากรถยนต์นั่งขนาดกลางและรถยนต์นั่งขนาดเล็ก จากการส่งออกที่ขยายตัว
น้ำมันปิโตรเลียม ขยายตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 2.06 จากผลิตภัณฑ์น้ำมันเครื่องบิน น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 และน้ำมันเบนซิน 95 เพื่อใช้ในการเดินทางและท่องเที่ยวหลังมีการเปิดประเทศเต็มรูปแบบ ประกอบกับโรงกลั่นกลับมาดำเนินการได้ตามปกติ หลังหยุดซ่อมบำรุง
เบียร์ ขยายตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 9.94 จากการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวเต็มรูปแบบ รวมถึงปีนี้มีเทศกาลฟุตบอลโลกเป็นปัจจัยหนุนให้มีการบริโภคมากกว่าปีก่อน
น้ำตาล ขยายตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 3.67 จากปีนี้เปิดหีบเร็วกว่าปีก่อน 1 สัปดาห์ ส่งผลให้มีอ้อยเข้าหีบปีนี้มากกว่าปีก่อน