ข่าวเด่น ข่าวดัง วันที่ 26-27 ม.ค.2566
‘พรรครวมไทยสร้างชาติ’ เตรียมเปิดประตูสู่ภาคใต้ ในวันที่ 28 ม.ค.นี้!
เรื่องที่ 1,753 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม จะประเดิมลงพื้นที่ขึ้นเวทีปราศรัยครั้งแรกที่จังหวัดชุมพร พร้อมด้วย พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ดร.ไตรรงค์ สุวรรณคีรี ชัชวาลล์ คงอุดม สุชาติ ชมกลิ่น ธนกร วังบุญคงชนะ และเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรค
โดย พล.อ. ประยุทธ์และคณะจะเดินทางไปถึงลานหน้าเทศบาลเมืองชุมพรในเวลา 16.00 น. เพื่อสักการะศาลหลักเมืองชุมพร และสักการะพระบรมรูป ร.5 ก่อนเริ่มเวทีปราศรัย ณ ลานหน้าเทศบาลเมืองชุมพร ตั้งแต่เวลา 17.00 จนถึงเวลา 20.00 น. โดยประมาณ
งานนี้คาดว่าพี่น้องชาวชุมพรและจังหวัดใกล้เคียง จะมาร่วมเชียร์ “ลุงตู่” และฟังการปราศรัยของแกนนำพรรครวมไทยสร้างชาติ อย่างคับคั่ง เพราะภาคใต้ถือเป็นพื้นที่ฐานเสียง พล.อ.ประยุทธ์ อยู่แล้ว
ความพิเศษของเวทีครั้งนี้ คือจะเป็นการลงพื้นที่ปราศรัยในต่างจัดหวัดครั้งแรกของ พล.อ.ประยุทธ์ แต่ถือเป็นครั้งที่ 3 สำหรับการปราศรัยในนามพรรคการเมือง
ทั้งนี้ ผลโพลของ “นิด้า” พล.อ.ประยุทธ์ ยังคงครองใจพี่น้องชาวใต้อยู่ แม้จะมีคู่แข่งฐานเสียงเดียวกันอย่างพรรคประชาธิปัตย์ และพรรคพลังประชารัฐ ก็ตาม
เรื่องที่ 1,754 วันนี้ขอบ่นมากกว่าที่จะเล่าให้ฟังแล้วกันะครับ สำหรับการให้ข่าวของสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) ที่เวลาออกเพรสข่าวมาทีไรทำให้ปวดหัว แล้วต้องให้ได้บ่นกันทุกรอบ ล่าสุดส่งข่าวการประกาศรายชื่อของผู้ยื่นขอผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน ในรูปแบบ FiT ปี 2565 – 2573 สำหรับกลุ่มไม่มีต้นทุนเชื้อเพลิง และขยะอุตสาหกรรม โดยความน่าบ่นของข่าวนี้ก็คือ รายชื่อของผู้ที่ผ่านเกณฑ์นั้นถูกแนบเป็นลิงก์มาให้กดเข้าไปดูเอาเอง แทนที่จะนำรายชื่อทั้งหมดแสดงให้เห็นเลย
เห็นแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจกับ กกพ. เพราะถ้าสื่อมวลชนจะเอารายชื่อมาแสดงให้เห็นเลย เพื่อนำเสนอต่อสาธารณะชนก็ต้องพยายามหาวิธีกันเอาเอง ที่ต้องกลายเป็น บก.ชวนบ่นก็เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ กกพ. ออกเพรสข่าวแบบนี้ที่มักจะสร้างปัญหาในการนำเสนอ แต่ก่อนก็จะมีพวกตารางออกมาที่ไม่สามารถนำออกมาใช้ได้ ซึ่งเป็นส่วนที่เป็นประโยชน์ควรนำเสนอให้ได้อ่าน สื่อมวลชนก็ต้องทำให้ได้ หรือเรียกว่าช่วยตัวเองนั่นแหละ
หรือบางครั้งส่งภาพท่านผู้บริหารมาหลายรูป แล้วมาเจาะจงว่าให้ใช้รูปที่ท่านต้องการ เอากะพ่อเจ้าประคุณรุนช่องสิ เลยอยากจะขอบอกผ่านคอลัมภ์นี้ไปให้ถึง กกพ. เลยก็แล้วกันนะขอรับนายท่าน ช่วยทำเพรสข่าวที่ง่ายต่อการนำเสนอหน่อยเถอะขอรับ จะได้วินวินกันทั้ง 2 ฝ่าย ประชาชนจะได้ข่าวที่ดีที่ถูกต้อง และครบในรายละเอียดด้วย ส่วนนายท่านก็ได้ประชาสัมพันธ์ครับผม
เรื่องที่ 1,755 งานนี้ เรียกว่า จุดใต้ตำตอ เหตุเกิดจากคุณพ่อ “ปลัดพี่ตู่-กฤษฎา จีนะวิจารณะ” อายุ 92 ปีแล้ว แถมยังเป็นนักเลงโซเชียลใครส่งอะไร เปิดดูหมดมิได้สงสัยแต่อย่างใด “ปลัดเล่าให้ฟังเอง” มีอยู่วันหนึ่ง มีโทรศัพท์ลึกลับมาบอกให้ “พ่อพี่” โอนเงินไปที่โน้นโอนไปที่นี่ เพราะไปทำอะไรเอาไว้ หรือข่มขู่อะไรสักอย่างหนึ่ง แต่จะด้วยเหตุใดก็ตาม สุดท้ายงานนี้ “พ่อพี่หมดตัวเลย” โดนไปแสนกว่าบาท!!
ขนาดนายแบงก์เก่า พ่อปลัดกระทรวงการคลังยังโดนแก๊งต้มตุ๋นเลย นับประสาอะไรกับพวกเรา!! สงสารประเทศไทยจริงๆ
เรื่องที่ 1,756 กนง.ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย จาก 1.25% เป็น 1.50% เพิ่มขึ้น 0.25% เมื่อวันที่ 25 ม.ค.ที่ผ่านมา ไม่ทันไร วันที่ 26 ม.ค.มีแบงก์รัฐ 2 แห่งคือ ธอส. และเอ็กซิมแบงก์ ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยตามแบงก์ชาติไปติดๆ เหตุผลหลักคือ ในช่วงที่ผ่านมา กนง.ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยไปแล้ว 4 ครั้ง อัตราดอกเบี้ยเดิมอยู่ที่ 0.50% ขยับขึ้นพรวดมาอยู่ที่ 1.50% ขณะที่ ธนาคารเฉพาะกิจของรัฐไม่ขยับตัวขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้แม้แต่สลึงเดียว
อย่างเช่น ธอส.ต้องแบกรับภาระขาดทุนกำไรกว่า 1,000 ล้านบาทในการตรึงอัตราดอกเบี้ยในช่วงที่ผ่านมา ถึงปีนี้ คงอยู่ไม่ได้ ถ้าไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยตามเงาของแบงก์ชาติ
โดยนพวัชร์