คาดทรัมป์แบนจีนจากเครือข่าย 5G สหรัฐฯ
คาดการณ์ว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์จะลงนามในคำสั่งพิเศษของประธานาธิบดีในสัปดาห์หน้าเพื่อห้ามไม่ให้เครือข่ายเทคโนโลยีไร้สายของสหรัฐฯ ใช้อุปกรณ์สื่อสารโทรคมนาคมของจีน สำนักข่าว Politico รายงานเมื่อวันที่ 7 ก.พ.โดยอ้างอิงจาก 3 แหล่งข่าว
แหล่งข่าวระบุว่ารัฐบาลของประธานาธิบดีทรัมป์มีแผนจะปล่อยคำสั่งโดยตรงก่อนการประชุมอุตสาหกรรม MWC บาร์เซโลนา ซึ่งจะเริ่มต้นตั้งแต่วันที่ 25 ก.พ. เป็นการส่งสัญญาณให้เห็นถึงความสำคัญของความมั่นคง
ทางไซเบอร์ของอนาคตสัญญาเทคโนโลยีระดับไฮเอนด์ในอนาคต
เนื่องจากโครงสร้างพื้นฐานสำหรับเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงในยุคต่อไป ที่เรียกกันว่า 5G กำลังมีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว ทางการสหรัฐฯต้องการให้เกิดแรงกระเพื่อมและผลกระทบด้านความมั่นคง แหล่งข่าวที่ใกล้ชิดกับรัฐบาลให้ข้อมูลกับ Politico
โดยทำเนียบขาว ซึ่ง Politico ปฏิเสธที่จะให้ความเห็นในเรื่องนี้ ไม่ได้ตอบอีเมลของทางสื่อ CNBC ที่สอบถามไปนอกเวลาการทำงาน
ปัจจุบัน หลายประเทศกำลังเร่งสร้าง และเปิดตัวเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตไร้สาย 5G ซึ่งเพิ่มความเร็วให้กับอุปกรณ์สื่อสารและทำให้มีการโอนถ่ายส่งข้อมูลจำนวนมากได้อย่างรวดเร็วกว่าเดิม โดยมีบริษัทยักษ์ใหญ่ของจีนอย่างหัวเว่ยและ ZTE เป็นคู่แข่งรายสำคัญ
ทั้งนี้ ทางหัวเว่ยและ ZTE ยังไม่ได้ให้ความเห็นกับกับทางสื่อ CNBC เช่นเดียวกัน
ก่อนหน้านี้ สหรัฐฯอ้างความมั่นคงของชาติเป็นเหตุผลในการไม่ใช้อุปกรณ์ของหัวเว่ย โดยกล่าวหาว่าฮาร์ดแวร์จากบริษัทของจีนอาจใช้เป็นอุปกรณ์เข้าถึงเครือข่ายของสหรัฐฯ เพื่อจารกรรมความลับให้รัฐบาลจีน
ตั้งแต่ปี 2555 หัวเว่ย ซึ่งเป็นผู้ผลิตอุปกรณ์เทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตไร้สายรายใหญ่ที่สุดของโลก ถูกห้ามไม่ให้ขายผลิตภัณฑ์เหล่านั้นในสหรัฐฯ โดยมีคำชี้แจงในประเด็นความกังวลด้านความมั่นคงจากรัฐบาลสหรัฐฯ
ขณะเดียวกัน จีนและหัวเว่ย ปฏิเสธครั้งแล้วครั้งเล่าว่าไม่มีความเสี่ยงกับประเทศใดๆ หากมีการใช้งานฮาร์ดแวร์ของบริษัท และกล่าวหาว่า คำสั่งห้ามของสหรัฐฯ เกิดจากความกลัวที่จะแข่งขันกับเทคโนโลยีที่ล้ำหน้าของหัวเว่ย
ขณะเดียวกัน ในหลายประเทศ ทั้งสหราชอาณาจักร แคนาดา ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และญี่ปุ่น ได้ดำเนินการตามการชี้นำของสหรัฐฯ โดยห้ามไม่ให้มีการใช้อุปกรณ์ของหัวเว่ยในการพัฒนาระบบเทคโนโลยี 5G ของประเทศ.