หุ้นพุ่งหลังสหรัฐฯ – จีนพักรบสงครามการค้า
ตลาดหุ้นสหรัฐฯล่วงหน้าพุ่งทะยานหลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯและประธานาธิบดีสีจิ้นผิงตกลงที่จะพักรบสงครามการค้าซึ่งส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นส่วนใหญ่ของปี 2561 นี้
ดัชนีล่วงหน้าของดาวโจนส์พุ่งขึ้นถึง 463 จุดในเวลา 18.30 น. ตามเวลาในนิวยอร์ก ขณะที่ S&P 500 ล่วงหน้าเพิ่มขึ้น 1.7% และดัชนีล่วงหน้าของ Nasdaq – 100 ซึ่งเป็นเหมือนบ้านของบริษัทเทคโนโลยีที่ขายของให้จีน พุ่งขึ้นเกือบ 2%
ดัชนีล่วงหน้าของน้ำมันและทองแดงปรับเพิ่มขึ้นเพราะมีความหวังว่าข้อตกลงการค้าใหม่ที่เป็นไปได้ของสหรัฐฯกับจีนจะช่วยหนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจทั่วโลก
โดยผู้นำทั้งสอง ซึ่งพบกันช่วงงานเลี้ยงมื้อค่ำเมื่อวันที่ 1 ธ.ค.ในการประชุมกลุ่มประเทศ G20 ในอาร์เจนตินา เห็นพ้องกันที่จะชะลอการขึ้นภาษีกับสินค้าของกันและกันในช่วงต้นปีหน้าเพื่อเปิดทางให้มีการเจรจากัน โดยสหรัฐฯ ตกลงที่จะคงอัตราภาษีกับสินค้าจีนที่ 10% มูลค่ากว่า 200,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หากหลังจาก 90 วัน ทั้งสองประเทศยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงร่วมกันได้ ภาษีจะปรับขึ้นเป็น 25% อ้างอิงจากทำเนียบขาว โดยการเจรจาทางการค้้าจะมุ่งเน้นที่ประเด็นการบีบบังคับให้มีการถ่ายทอดเทคโนโลยีและการขโมยทรัพย์สินทางปัญญา
“ ความชัดเจนของการเลื่อนมาตรการภาษี 25% ออกไป ทำให้ความคาดหวังจบลงในแง่ดี “ Helen Qiao นักเศรษฐศาสตร์จีนและเอเชียจาก Bank of Amwerica Lynch ระบุในเอกสารถึงลูกค้า “ ตรงข้ามกับความกลัว โดยเฉพาะในเอเชียก่อนหน้านี้ว่าสายเหยี่ยวในทีมบริหารของสหรัฐฯจะทำให้ความต้องการเป็นไปไม่ได้ แต่มีหลักฐานชัดเจนแล้วว่าประธานาธิบดีทรัมป์กำลังทำงานเพื่อดีลการค้ากับจีน ”
ทั้งนี้ ในการประชุมที่อาร์เจนตินา จีนตกลงที่จะซื้อสินค้าสำคัญ แต่ยังไม่ระบุจำนวนในภาคการเกษตร อุตสาหกรรมพลังงาน และสินค้าอื่นๆของสหรัฐฯเพื่อปรับสมดุลทางการค้าระหว่างสองประเทศ อ้างอิงจากทำเนียบขาว ที่ผ่านมาจนถึงตอนนี้ จีนมีมาตรการภาษีโต้ตอบกับสินค้าสหรัฐฯ มูลค่า 110,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
“ ชัดเจนว่ายังมีหนทางอีกยาวไกลกว่าจะไปถึง แต่ดีลของทรัมป์ก็ส่งผล ” Qiao ระบุ
ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นกว่า 5% ในสัปดาห์ก่อนจากความคาดหวังว่าจะมีการพักรบทางการค้าจากการประชุมในช่วงสุดสัปดาห์ของประธานาธิบดีสีและประธานาธิบดีทรัมป์ โดยหุ้นของ Caterpillar และ Boeing ซึ่งเป็นสองบริษัทที่มีการค้าเสรีกับจีน ทำกำไรก่อนสุดสัปดาห์ ขณะที่ดัชนี S&P 500 พุ่งขึ้น 4.9% ในสัปดาห์ที่แล้ว และเพิ่มขึ้น 3% สำหรับปีนี้ โดยความกลัวสงครามการค้าเต็มรูปแบบระหว่างสองประเทศทำให้ดัชนีหุ้นดิ่งลงมาอยู่ในแดนลบในเดือนพ.ย.ที่ผ่านมา
“ นี่เป็นข่าวที่สร้างสรรค์สำหรับตลาดหุ้น อย่างไรก็ตาม ความกังวลเรื่องความสัมพันธ์สหรัฐฯ – จีนยังคงมีอยู่” Sacha Tihanyi รองผอ.ตลาดเกิดใหม่ประจำ TD Securities ระบุในเอกสาร “ เราไม่เชื่อว่าประเด็นที่ใหญ่กว่านี้ในเชิงโครงสร้างจะสามารถคลี่คลายได้ง่ายๆภายใน 90 วัน ”
ตลาดหุ้นในเอเชียขานรับข่าวดีนี้เช่นกัน โดยเช้าวันที่ 3 ธ.ค. ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิทพุ่งขึ้น 2.3% ขณะที่ดัชนีเซินเจิ้นคอมโพสิททะยานขึ้นเกือบ 3% ดัชนีนิกเคอิของญี่ปุ่นขยับขึ้น 1.28% ขณะที่ดัชนี Topix เพิ่มขึ้น 1.40% และในเกาหลีใต้ ดัชนี Kospi ปรับเพิ่มขึ้น 1.63%.