ผู้นำเม็กซิโกคนใหม่ – โลเปซ โอบราดอร์
อันเดรส มานูเอล โลเปซ โอบราดอร์ ประธานาธิบดีเม็กซิโกคนใหม่ซึ่งเป็นนักการเมืองฝ่ายซ้ายคนแรกในรอบกว่า 7 ทศวรรษ ได้ทำพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งในรัฐสภาของเม็กซิโก
โดยโลเปซ โอบราดอร์ อดีตนายกเทศมนตรีเมืองเม็กซิโกซิตี้ได้ให้คำมั่นเมื่อวันที่ 1 ธ.ค.ที่ผ่านมาว่าจะกำจัดการทุจริต ยุติการไม่ต้องรับผิด และเปลี่ยนแปลงประเทศในนามของคนยากจนและคนที่ถูกลดความสำคัญลง
ผู้นำเม็กซิโกคนใหม่ในวัย 65 ปี มีชื่อเล่นด้วยอักษรตัวแรกว่า Amlo ชนะการเลือกตั้งเข้ามาอย่างถล่มทลายเมื่อเดือนก.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการลงสมัครรับเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีเป็นครั้งที่ 3 ของเขา
นักการเมืองรุ่นเก๋าคนนี้เริ่มต้นทำหน้าที่ประธานาธิบดีที่มีวาระ 6 ปีของเขาด้วยคะแนนความนิยมจากประชาชนถึง 56% ขณะที่อดีตประธานาธิบดีเอ็นริเก เปนา นิเอโต ลงจากตำแหน่งไปด้วยคะแนนความนิยมเพียง 24% เนื่องจากคณะรัฐบาลของเขามีข่าวอื้อฉาวเรื่องการทุจริต และมีสถิติการเกิดอาชญากรรมในเม็กซิโกที่สูงเป็นประวัติการณ์
ทั้งนี้ ประธานาธิบดีโลเปซ โอบราดอร์ต้องรับมือกับประเด็นนโยบายต่างประเทศในทันทีที่รับตำแหน่ง โดยปัญหาสำคัญคือ จะทำอย่างไรกับผู้อพยพหลายพันคนจากอเมริกากลางที่มาพักพิงอยู่ที่พรมแดนเม็กซิโก -สหรัฐฯ
มีคนดังจากต่างประเทศมาเป็นแขกในพิธีสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีของเขาในเมืองหลวงของเม็กซิโกหลายคน ทั้งรองประธานาธิบดีสหรัฐฯไมค์ เพนซ์ , อิวานกา ทรัมป์บุตรสาวประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และประธานาธิบดีนิโคลาส มาดูโรแห่งเวเนซุเอลา ขณะที่เจเรมี คอร์บิน หัวหน้าพรรคแรงงานของอังกฤษ ผู้ที่ประธานาธิบดีโลเปซ โอบราดอร์ระบุว่าเป็นเพื่อนสนิทก็มาร่วมพิธีด้วย
โลเปซ โอบราดอร์ จากพรรค National Regeneration Movement (Morena) ซึ่งเป็นพรรคการเมืองฝ่ายซ้ายจะเป็นพรรคหลักในการจัดตั้งรัฐบาลผสม ในเวลาต่อมาหลังเสร็จพิธีสาบานตน เขาได้เข้าร่วมในการเฉลิมฉลองดั้งเดิมของคนในท้องถิ่นที่จตุรัสโซคาโล ในเม็กซิโกซิตี้
“ เราจะนำพาประเทศให้มีความสุขและมีความสงบเรียบร้อย แต่จะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ” ผู้นำเม็กซิโกคนใหม่ที่มีผมสีเงินระบุในการกล่าวสุนทรพจน์ครั้งแรกของเขาต่อสภาคองเกรส “ เพราะเราจะกำจัดการทุจริตและยุติการไม่รับผิดของผู้ที่ขัดขวางการเกิดใหม่ของเม็กซิโก” เขาได้พูดย้ำถึงคำสัญญาแบบประชานิยมที่เขาให้ไว้กับผู้สนับสนุนในช่วงการหาเสียงเลือกตั้งของเขาคือการกำจัดอาชญากรรม ความยากจนและการทุจริต
เขาตั้งใจจะบริหารประเทศเม็กซิโกอย่างประหยัด ด้วยการขายเครื่องบินประจำตำแหน่งประธานาธิบดี ไม่พักอาศัยอยู่ในทำเนียบประธานาธิบดี และตัดลดเงินเดือนตัวเองลงถึง 60%
มีความแตกต่างระหว่างเขากับอดีตประธานาธิบดีเอนริเก เปนา นิเอโตอย่างเห็นได้ชัดคือเขายังคงเดินทางไปไหนมาไหนด้วยรถยนต์โฟล์กสวาเกนคันเก่าของเขาที่ขับมานานหลายปี ขณะที่อดีตประธานาธิบดีมักใช้รถกันกระสุนเป็นประจำ
ทั้งนี้ เขาได้ลงนามในข้อตกลงกับ 3 ผู้นำประเทศในอเมริกากลางเพื่อกำหนดแผนการหยุดการหลั่งไหลของผู้อพยพเพื่อมาขอลี้ภัยอยู่ในสหรัฐฯ
อ้างอิงจากรายงานของสื่อ AFP โดยรมว.กระทรวงต่างประเทศเม็กซิโกระบุว่าแผนการยังรวมถึงเงินกองทุนในการสร้างงานในภูมิภาคด้วย
ในเมืองติฮัวนา ซึ่งเป็นเมืองชายแดนเม็กซิโกติดกับสหรัฐฯ มีผู้อพยพกว่า 6,000 คนจากฮอนดูรัส กัวเตมาลา และเอลซัลวาดอร์ ที่มาพักพิงเพื่อรอการยื่นขอสถานะผู้ลี้ภัยเข้าสหรัฐฯ ที่ต้องใช้เวลาหลายเดือนในการดำเนินการ
โดยผู้อพยพเหล่านี้ระบุว่า พวกเขาหนีมาจากการถูกข่มเหงรังแก ความยากจน และความรุนแรงในประเทศบ้านเกิด และเดินทางมาไกลกว่า 4,000 ก.ม.เพื่อขอโอกาสที่จะได้มีความฝันแบบอเมริกัน.