สหรัฐฯยังไม่ขึ้นภาษีจีน 25% รอคุยใน 90 วัน
ประธานาธิบดีสีจิ้นผิงของจีน และประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯ ชะลอสงครามการค้าระหว่างกันไว้ชั่วคราว โดยทำข้อตกลงจะชะลอการขึ้นภาษีโต้ตอบกันหลังวันที่ 1 ม.ค.ปีหน้า เนื่องจากทั้งสองประเทศจะพูดคุยกันอย่างต่อเนื่อง
ในการประชุมกลุ่มประเทศเศรษฐกิจ G20 ในอาร์เจนตินา ประธานาธิบดีสีและประธานาธิบดีทรัมป์ได้มีการพูดคุยกันในกรณีพิพาททางการค้าที่เริ่มต้นมาตั้งแต่เดือนก.ค.ปีนี้ โดยมีการขึ้นภาษีตอบโต้กันไปมากับสินค้าของกันและกัน มีมูลค่ารวม 200,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
“ ประธานาธิบดีทรัมป์ตกลงว่าในวันที่ 1 ม.ค.2562 สหรัฐฯ จะขึ้นภาษี 10% มูลค่า 200,000 ล้านดอลลาร์ และจะยังไม่ปรับขึ้นเป็น 25%ในตอนนี้ ” แถลงการณ์ระบุ โดยภายใน 90 วัน ทางการสหรัฐฯและจีนจะยังคงมีการเจรจาเกี่ยวกับการถ่ายทอดเทคโนโลยี ทรัพย์สินทางปัญญาและเกษตรกรรม “ ทั้งสองฝ่ายตกลงกันว่าจะพยายามให้ข้อตกลงนี้เสร็จมสมบูรณ์ภายใน 90 วัน เมื่อหมดเวลาแล้วทั้งสองฝ่ายยังตกลงกันไม่ได้ จึงจะปรับขึ้นอัตราภาษีจาก 10% เป็น 25% ” แถลงการณ์ระบุเพิ่มเติม
ขณะเดียวกัน “ จีนตกลงที่จะซื้อสิ่งที่ยังไม่เคยตกลงกันมาก่อน แต่เป็นสิ่งสำคัญ เช่น ผลผลิตการเกษตรจำนวนมาก พลังงาน อุตสาหกรรมและสินค้าอื่นๆจากสหรัฐฯเพื่อลดความไม่สมดุลทางการค้าระหว่างสองประเทศ โดยจีนตกลงที่จะเริ่มซื้อสินค้าเกษตรจากเกษตรกรของเราทันที ” ทำเนียบขาวรายงาน
ประธานาธิบดีทรัมปืเลื่อนการแถลงข่าวเมื่อวันที่ 1 ธ.ค. ซึ่งจะเป็นการชี้แจงถึง “ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่” ในการประชุม G20 ในอาร์เจนตินาออกไปก่อน เนื่องจากอดีตประธานาธิบดีจอร์จ เอช ดับเบิลยู บุชของสหรัฐฯ ถึงแก่อสัญกรรม
แต่ผู้นำสหรัฐฯระบุผ่านทวิตเตอร์ว่า เขาจะรอจนกว่าเขาเดินทางกลับถึงสหรัฐฯเพื่อแถลงข่าวถึงผลการประชุมระหว่างกลุ่มประเทศเศรษฐกิจที่ทรงอิทธิพลที่สุดในโลก
ความเคลื่อนไหวของทรัมป์ทำให้ตลาดมีความหวังถึงความผ่อนคลาย หรืออย่างน้อยก็มีสัญญาณของความก้าวหน้าด้านการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน ผู้นำสหรัฐฯและผู้นำจีนพบกันในช่วงงานเลี้ยงมื้อค่ำ ซึ่งมีรายงานว่าประธานาธิบดีสีกล่าวกับประธานาธิบดีทรัมป์ว่า ทั้งสองประเทศควรมีความร่วมมือกันให้มากขึ้นและกระชับความสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
ในแถลงการณ์ร่วม บรรดาผู้นำกลุ่มประเทศ G20 ระบุว่า ระบบการค้าพหุภาคีในปัจจุบัน “ขาดวัตุประสงค์ที่แท้จริงและยังต้องมีการปรับปรุงพัฒนาให้ดีขึ้น” และสนับสนุนให้มีการปฏิรูปองค์การการค้าโลก หรือ WTO ด้วย
ข่าวดีนี้จะทำให้ตลาดหุ้นได้รับแรงหนุนครั้งใหญ่ที่สุด โดยเฉพาะการค้าในจีน ประเทศที่เหลือในเอเชีย ออสเตรเลียและเยอรมนี (ซึ่งดัชนี DAX ดิ่งร่วงลงเกือบ 13%) ในปีนี้ อ้างอิงจาก Peter ฺBoockvar ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุนที่ Bleakley Advisory Group โดยหุ้นของบริษัทยักษ์ใหญ่อย่างแอปเปิลจะได้ประโยชน์เช่นกัน
ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 30 พ.ย.มีข่าวร้ายสำหรับเศรษฐกิจจีน เนื่องจากตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้ดิ่งลงมาประมาณ 22% ขณะที่กิจกรรมโรงงานชะลอตัวลงในเดือนพ.ย. มากที่สุดในรอบ 2 ปี และดัชนีผู้ผลิต PMI อยู่ที่ 50 คือในระดับกลาง ไม่มีการเติบโตและไม่มีการหดตัว.