ผู้นำอียูตกลงเบร็กซิทดีลที่บรัสเซลส์
บรรดาผู้นำของสหภาพยุโรปเห็นพ้องกับข้อตกลงในการถอนตัวของสหราชอาณาจักรและความสัมพันธ์ในอนาคต โดยยืนยันว่า เป็นดีลที่ดีที่สุดและเป็นไปได้มากที่สุด
หลังจากการเจราจาที่ยืดเยื้อกินเวลานานถึง 20 เดือน ผู้นำจาก 27 ประเทศในยุโรปตกลงรับเบร็กซิทดีล หลังจากมีการประชุมกันไม่ถึงชั่วโมง
โดยพวกเขาระบุว่า ดีลนี้ ซึ่งจะต้องผ่านความเห็นชอบของสภาสหราชอาณาจักร ถือเป็นการปูทางสำหรับการถอนตัวออกจากอียูอย่างเป็นระบบ
ขณะที่นายกรัฐมนตรีเทเรซา เมย์แห่งอังกฤษกล่าวว่า ดีลนี้เป็นไปเพื่อประชาชนทุกคนในสหราชอาณาจักร และเป็นการจัดระเบียบให้ประเทศ
เพื่อเดินทางไปสู่อนาคตที่รุ่งเรือง โดยในการกล่าวสุนทรพจน์ในกรุงบรัสเซลส์ เธอสนับสนุนให้ทั้งผู้ที่โหวตให้ออกและให้อยู่ต่อในอียูรวมกันเป็นหนึ่งเดียวเบื้องหลังข้อตกลงนี้ โดยย้ำว่า สหราชอาณาจักร “ไม่อยากเสียเวลาโต้เถียงกันเรื่องเบร็กซิทอีก”
ทั้งนี้ สหราชอาณาจักรมีกำหนดจะออกจากสหภาพยุโรปในวันที่ 29 มี.ค. 2562 ทางการอียูกำหนดหลักการและเงื่อนไขของการถอนตัวของสหราชอาณาจักรในระหว่างการประชุมสั้นๆ ทำให้การเจรจาจบลงในเดือนมี.ค.2560
โดย Jean-Claude Juncker ประธานคณะกรรมาธิการยุโรประบุว่า ใครก็ตามในสหราชอาณาจักรที่คิดว่า อียูอาจเสนอเงื่อนไขที่ดีขึ้น หากส.ส.ปฏิเสธดีลคงจะต้องผิดหวัง
คาดการณ์ว่า สภาของสหราชอาณาจักรจะโหวตลงมติในดีลนี้วันที่ 12 ธ.ค. แต่ยังไม่อาจรับประกันเรื่องการผ่านความเห็นชอบได้
โดยนายกฯเมย์ได้ส่งสารร้องขอการสนับสนุนจากประชาชน โดยระบุว่า ถึงแม้จะเป็นการประนีประนอม แต่ก็เป็นข้อตกลงที่ดี ซึ่งปลดล็อกให้สหราชอาณาจักรมีอนาคตที่สดใส
ในการแถลงข่าวในกรุงบรัสเซลส์ เธอกล่าวว่า ข้อตกลงนี้คือ
- ยุติการเคลื่อนย้ายเสรีของพลเมืองในทุกรูปแบบ
- คุ้มครองรัฐธรรมนูญของสหราชอาณาจักร
- กลับไปใช้กฎหมายที่ตราขึ้นในประเทศของเราโดยนักการเมืองที่ได้รับการเลือกตั้งในระบบประชาธิปไตยและศาลอังกฤษ
โดยเธอเสริมว่า ข้อตกลงจะไม่ย้ายยิบรอลตาร์ออกจากประเทศในเครือจักรภพอังกฤษ โดยเป็นการเจรจาในนาทีสุดท้ายกับสเปนเรื่องอาณาเขต ผู้นำอียูได้อนุมัติเอกสารเบร็กซิทสำคัญ 2 ส่วนคือ
- ข้อตกลงการถอนตัวออกจากอียู ซึ่งมีความยาว 599 หน้า เป็นเอกสารทางกฎหมายที่กำหนดเงื่อนไขการออกจากอียูของสหราชอาณาจักร โดยครอบคลุมค่าใช้จ่ายในการออก 39,000 ล้านปอนด์ , สิทธิพลเมือง และพรมแดนไอร์แลนด์เหนือ ซึ่งเป็นหนทางที่จะทำให้พรมแดนไอร์แลนด์ยังเปิดอยู่ แม้การเจรจาการค้าจะชะงัก
- การประกาศทางการเมือง ซึ่งทำให้ความสัมพันธ์ของสหราชอาณาจักรและอียูอาจเหมือนเดิมหลังจากเบร็กซิท – กำหนดกรอบในหลายอย่าง เช่น การค้าระหว่างสหราชอาณาจักรและความมั่นคง
ยังไม่มีการโหวตลงคะแนนอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 25 พ.ย.แต่ทางอียูมีมติเป็นเอกฉันท์
ประธาน Juncker ระบุว่า เป็นวันที่ “เศร้ามาก” และไม่มีใครอยากชูแก้วแชมเปญขึ้นมาฉลองจากการที่สหราชอาณาจักรออกจากอียูไป
ขณะที่ไม่ใช่เรื่องของเขาที่จะบอกส.ส.ในสภาสหราชอาณาจักรว่าจะโหวตอย่างไร แต่เขากล่าวว่า พวกเขาควรคิดว่า “ นี่เป็นดีลที่ดีที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ เป็นดีลที่เป็นไปได้เพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น”
Leo Varadkar นายกรัฐมนตรีไอร์แลนด์สะท้อนความคิดเห็นของ Juncker โดยกล่าวว่า “ ดีลอื่นๆเป็นแค่จินตนาการของผู้คนเท่านั้น”
ขณะที่ประธานาธิบดี Dalia Grybauskaite แห่งลิทัวเนียชี้ว่า จะมีผลตามมาอีกมากหากสภาสหราชอาณาจักรปฏิเสธดีลนี้ เช่น การเจรจาที่ยืดเยื้ออกไป หรือการทำประชามติอีกครั้ง.