นิสสันปลดประธานออก หลังทำผิดกฎหมายการเงิน
เมื่อวันที่ 19 พ.ย. นิสสัน มอเตอร์ประกาศว่า บริษัทจะขับ Carlos Ghosn ออกจากตำแหน่งประธานบริษัท เนื่องจากมีพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง และสื่อญี่ปุ่นรายงานว่า เขาถูกจับกุมตัว ถือเป็นเรื่องช็อกโลกสำหรับผู้นำที่เคยฟื้นฟูบริษัทขึ้นมาจากภาวะใกล้ล้มละลาย
โดยผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติญี่ปุ่นระบุว่า พฤติกรรมที่ผิดกฎหมายของ Ghosn คือการนำเงินบริษัทไปใช้ส่วนตัว และไม่รายงานว่าเขาได้ใช้เงินไปมากแค่ไหน
Ghosn รั้งตำแหน่งประธานและซีอีโอของเรโนลต์ ซึ่งเป็นแบรนด์หุ้นส่วนของนิสสันจากฝรั่งเศส และเป็นหนึ่งในแบรนด์ที่เป็นที่รู้จักในอุตสาหกรรมรถยนต์ทั่วโลก และการจากไปของเขาทำให้มีการตั้งคำถามถึงอนาคตการเป็นพันธมิตรระหว่างกัน
นิสสันระบุว่า ได้มีการสอบสวนเป็นเวลานานหลายเดือนหลังจากมีผู้แจ้งถึงการกระทำความผิดของ Ghosn และตัวแทนบอร์ดบริหาร Greg Kelly
“ การสอบสวนชี้ให้เห็นว่าเป็นเวลานานหลายปีที่ Ghosn และ Kelly ได้รายงานจำนวนค่าตอบแทนในรายงานของคณะกรรมการกำกับตลาดหลักทรัพย์โตเกียวน้อยกว่าตัวเลขจริง เพื่อลดจำนวนค่าตอบแทนที่ต้องเปิดเผยของ Ghosn ” นิสสันระบุในแถลงการณ์
“ นอกจากนี้ ในนามของ Ghosn ยังมีการกระทำความผิดอื่นๆ ที่ถูกปกปิดไว้ เช่น นำทรัพย์สินบริษัทมาใช้เป็นการส่วนตัว และมีการยืนยันว่าเกี่ยวข้องกับ Kelly ด้วย ”
โดยนิสสันมีการแถลงข่าวในเย็นวันที่ 19 พ.ย. ขณะที่โฆษกของเรโนลต์ และกลุ่มพันธมิตร เรโนลต์ -นิสสัน-มิตซูบิชิ ยังไม่มีความเห็นในประเด็นนี้
บริษัทระบุว่า ซีอีโอ ฮิโรโตะ ไซคาวะ จะเสนอกับบอร์ดนิสสันให้ปลด Ghosn และ Kelly ออกจากตำแหน่ง
หุ้นของเรโนลต์ดิ่งร่วงลงมา 11% ในปารีส อยู่ในกลุ่มหุ้นที่แย่ที่สุดของยุโรป ขณะที่หุ้นนิสสันในตลาดหุ้นเยอรมนีร่วงลงมา 10%
ทั้งนี้ Ghosn ได้เครดิตจากการเป็นผู้พลิกฟื้นบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ญี่ปุ่นอย่างนิสสัน และยังคงได้รับความนิยม แม้จะลดตำแหน่งงานจำนวนมาก
โดยสื่อญี่ปุ่นรายงานว่า Ghosn รายงานค่าตอบแทนประมาณ 5,000 ล้านเยน ขณะที่ตัวเลขจริงอยู่ประมาณ 10,000 ล้านเยน
“ ถ้าเขาถูกจับ มันจะเขย่าความสัมพันธ์กลุ่มพันธมิตรเรโนลต์ – นิสสัน – มิตซูบิชิ เพราะเขาเป็นคนสำคัญของบริษัท ” ซาโตรุ ทาคาดะ นักวิจารณ์ที่ TIW ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยและที่ปรึกษาในโตเกียวให้ความเห็น “ เขาเป็นผู้ชายที่มีเสน่ห์ มีแนวโน้มว่าจะมีผลกระทบด้านลบกับภาพพจน์ของแบรนด์ ” เขากล่าวกับสื่อ AFP
เรโนลต์ถือหุ้น 43.4% ในนิสสัน ขณะที่นิสสันถือหุ้น 15% ในเรโนลต์ โดยไม่มีสิทธิโหวตออกเสียงจากการตกลงเป็นหุ้นส่วนกันในปี 2542 และตั้งแต่ปี 2559 เป็นต้นมา นิสสันถือหุ้น 34% ในบริษัทคู่แข่งสัญชาติญี่ปุ่นคือมิตซูบิชิ
หนังสือพิมพ์อาซาฮีรายงานบนเว็บไซต์ว่า อัยการเริ่มค้นหาหลักฐานที่สำนักงานใหญ่ของนิสสันและสถานที่อื่นๆในช่วงเย็นวันที่ 19 พ.ย.
Ghosn เกิดในบราซิล มีเชื้อสายเลบานอน และเป็นพลเมืองฝรั่งเศส เขาเริ่มต้นอาชีพของเขาที่บริษัท Michelin ในฝรั่งเศส ก่อนที่จะย้ายมาที่เรโนลต์ เขาเข้าร่วมกับนิสสันในปี 2542 หลังเรโนลต์ซื้อหุ้นในนิสสัน และเขารั้งตำแหน่งซีอีโอของนิสสันในปี 2544 โดย Ghosn ยังอยู่ในตำแหน่งนั้นจนถึงปีที่แล้ว
ปี 2559 Ghosn เข้ามาแก้ปัญหาของแบรนด์รถยนต์มิตซูบิชิ โดยนิสสันเข้าซื้อหุ้น 1 ใน 3 ของมิตซูบิชิประมาณ 2,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
เนื่องจากมิตซูบิชิยอมรับว่า โกงตัวเลขประหยัดน้ำมัน กลายเป็นข่าวฉาวรุนแรงส่งผลให้ยอดขายทรุด
ในเดือนมิ.ย. ผู้ถือหุ้นเรโนลต์อนุมัติเงินค่าตอบแทนปี 2560 ให้ Ghosn จำนวน 7.4 ล้านยูโร หรือราว 281 ล้านบาท นอกจากนี้ เขายังได้รับเงินค่าตอบแทนในตำแหน่งซีอีโอของนิสสันในปีสุดท้ายจำนวน 9.2 ล้านยูโร หรือราว 350 ล้านบาทอีกด้วย.