ฝรั่งเศสประท้วงเดือด เจ็บนับร้อย
การชุมนุมประท้วงในฝรั่งเศสเรื่องราคาเชื้อเพลิงเป็นวันที่ 2 ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บกว่า 400 รายแล้ว อ้างอิงจากรายงานของทางการ
กระทรวงมหาดไทยฝรั่งเศสระบุว่า มีผู้ประท้วงเกือบ 300 รายที่ถูกสอบสวน ขณะที่มี 157 รายที่ถูกดำเนินคดี
โดยการประท้วงเมื่อวันที่ 17 พ.ย.มีประชาชนเข้าร่วมในการประท้วงประมาณ 288,000 คน และตัวเลขลดลงในวันต่อมา กระทรวงรายงาน
กลุ่มผู้ประท้วง ซึ่งมีชื่อเรียกว่า “เสื้อกั๊กเหลือง” ได้ทำการปิดกั้นถนนหลายสายในฝรั่งเศส
คนกลุ่มนี้ไม่พอใจในตัวประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ซึ่งถูกพวกเขากล่าวหาว่าลอยตัวอยู่เหนือปัญหา เขายังไม่ได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับผู้ประท้วง และในโพลล่าสุด ความนิยมในตัวเขากำลังดิ่งเหว
ประธานาธิบดีมาครงเข้าสู่อำนาจในปีที่แล้ว โดยให้คำมั่นว่าจะยกเครื่องเศรษฐกิจฝรั่งเศส และทำให้ราคาเชื้อเพลิงลดลงเพื่อประชาชนชาวฝรั่งเศส โดยรัฐบาลประกาศหลายมาตรการเพื่อช่วยเหลือครอบครัวที่ยากจนในการจ่ายค่าพลังงานและคมนาคม
แต่กลับมีผู้สนับสนุนการประท้วงอย่างกว้างขวาง โดยเกือบ 3 ใน 4 ของผู้ตอบแบบสอบถามในโพลของสถาบัน Elabe ให้การสนับสนุนกลุ่มเสื่อกั๊กเหลือง และ 70% อยากให้รัฐบาลปรับลดภาษีเชื้อเพลิงลง
ผู้ประท้วงยึดครองพื้นที่ถนนกว่า 2,000 แห่งทั่วฝรั่งเศสเมื่อวันที่ 17 พ.ย. อ้างอิงจากกระทรวงมหาดไทย
โดยผู้ประท้วงส่วนใหญ่เดินผ่านไปอย่างสงบ แต่ในบางพื้นที่ ก็มีอารมณ์โกรธเกรี้ยวและบรรดาผู้ขับขี่พยายามจะขับผ่านที่ผู้ประท้วงปิดกั้นถนน
กรณีที่ร้ายแรงที่สุดคือ มีผู้ประท้วงหญิงรายหนึ่งเสียชีวิต หลังจากผู้ขับรถคันหนึ่งที่ถูกผู้ประท้วงล้อมเกิดอาการตื่นตกใจและเหยียบคันเร่งพุ่งเข้าชน อัยการระบุว่าคนขับถูกตั้งข้อหาฆาตกรรม และถูกปล่อยตัวไปหลังยื่นเงินประกันตัว
มีประมาณ 3,500 คนที่ยังคงประท้วงอยู่บนถนนในคืนวันที่ 17 พ.ย. ซึ่ง Christophe Castaner รมว.กระทรวงมหาดไทยชี้ว่าเป็นคืนที่ “ควบคุมยาก”
“ มีการทำร้าย การต่อสู้ แทงกัน มีการต่อสู้ระหว่างผู้ประท้วงเสื้อกั๊กเหลืองกันเอง พวกเขาดื่มแอลกอฮอล์เข้าไปมาก ทำให้มีพฤติกรรมก้าวร้าว ” โดยเขารายงานว่า มีผู้บาดเจ็บกว่า 400 ราย และ 14 รายบาดเจ็บสาหัส
ราคาน้ำมันดีเซล ซึ่งใช้กันทั่วไปกับรถยนต์ในฝรั่งเศส พุ่งขึ้นประมาณ 23% ใน 12 เดือนที่ผ่านมามาอยู่ที่ 1.51 ยูโร หรือราว 57.53 บาท ต่อลิตร ซึ่งเป็นราคาสูงที่สุดในรอบกว่า 10 ปี สำนักข่าว AFP รายงาน
ราคาน้ำมันโลกปรับขึ้นก่อนที่จะดิ่งร่วงลงมาอีกครั้ง แต่รัฐบาลของประธานาธิบดีมาครงกลับขึ้นภาษีไฮโดรคาร์บอนในปีนี้อีก 7.6 เซ็นต์ต่อน้ำมันดีเซล 1 ลิตรและ 3.9 เซ็นต์ต่อลิตรสำหรับน้ำมันเบนซิน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการรณรงค์ให้มีการใช้รถยนต์และเชื้อเพลิงที่เป็นพลังงานสะอาด และการตัดสินใจปรับขึ้นภาษีน้ำมันดีเซลอีก 6.5 เซ็นต์ต่อลิตรและ 2.9 เซ็นต์สำหรับน้ำมันเบนซินในวันที่ 1 ม.ค. 2562 กลายเป็นฟางเส้นสุดท้ายสำหรับผู้ประท้วง
ตอนนี้มาครงอยู่ในเยอรมนีในวันแสดงความอาลัยให้กับเหยื่อของสงคราม และทำเนียบประธานาธิบดีระบุว่า เป็นเรื่องไม่เหมาะสมที่จะพูดเรื่องการประท้วงในขณะที่เขาอยู่ต่างประเทศ.