เกียวโตหวังกระจายนักท่องเที่ยว
เมืองเกียวโตในญี่ปุ่น ซึ่งเป็นหนึ่งในเมืองจุดหมายปลายทางที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมากที่สุดในโลก กำลังตั้งเป้าที่จะดึงดูดนักท่องเที่ยวให้กระจายไปสถานที่อื่นๆ เพื่อลดระดับจำนวนนักท่องเที่ยวที่มีมากเกินไป ก่อให้เกิดความไม่พอใจกับผู้มาเยือนและคนท้องถิ่น
เนื่องจากเมืองเกียวโตติดอันดับต้นๆในโพลล์นิตยสารท่องเที่ยวของต่างประเทศ ทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวในเกียวโตพุ่งขึ้นถึง 50 ล้านคนต่อปี ต่อเนื่องกันเป็นปีที่ 5 นับตั้งแต่ปี 2556 เป็นต้นมา
นักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาเยือนเกียวโต มักจะตามรอยสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของเมืองอย่างเขตอาราชิยามะ และกิอง และวัดคิโยมิซุ
แต่ผลสำรวจเมืองเกียวโตในปี 2560 พบว่า 46% ของนักเดินทางชาวญี่ปุ่นมีประสบการณ์ไม่ค่อยดีนักในระหว่างเที่ยวชมเมืองเกียวโต โดยความแออัดหนาแน่นของผู้คนเป็นสาเหตุสำคัญที่สุด
โดยระหว่างฤดูการท่องเที่ยว นักท่องเที่ยวหลายคนพบว่าเป็นเรื่องยุ่งยากที่จะต้องนั่งรถโดยสารที่มีคนมากเกินไป และความแออัดในหลายพื้นที่ของเมืองเริ่มส่งผลกระทบกับชีวิตความเป็นอยู่ของชาวเมืองเกียวโต
ในบรรดาสถานที่ซึ่งได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยว ต้องมีศาลเจ้าเทพเจ้าจิ้งจอกอินาริ หรือศาลเจ้าเสาแดงหมื่นต้นติดอันดับรวมอยู่ด้วย โดยศาลเจ้าของศาสนาชินโตแห่งนี้ตั้งอยู่ทางใต้ของเมืองเกียวโต เป็นที่รู้จักไปทั่วโลกจากเสาสีแดงประมาณ 10,000 ต้น ศาลเจ้ามีนักท่องเที่ยวแน่นขนัดอยู่เกือบตลอดเวลา เพราะทุกคนอยากถ่ายรูปในสถานที่อันโด่งดังนี้กันทั้งนั้น
ขณะที่ในเขตฟุชิมิ ซึ่งเป็นที่ตั้งของศาลเจ้า นักท่องเที่ยวสามารถพบกับโรงบ่มสาเกในพื้นที่เมืองเก่าที่ยังคงอนุรักษ์เมืองทางประวัติศาสตร์แห่งนี้ไว้ได้ตั้งแต่สิ้นสุดยุคเอโดะ แม้จะเป็นที่รู้จักกันไม่มากนัก โดยเขตฟุชิมิมีน้ำพุร้อนตามธรรมชาติและมีโรงบ่มสาเกกว่า 20 แห่ง
นักท่องเที่ยวสามารถฟังการบรรยายจากเจ้าของโรงบ่มสาเกที่จะอธิบายประวัติศาสตร์และกระบวนการผลิตสาเกในอีเวนท์ที่จัดขึ้นที่ร้านอาหารฟุชิมิ ซาคากุระ โคจิ ซึ่งมีสาเกมากกว่า 100 ชนิด
ทาคาฮิโกะ ฮายาชิ ผู้จัดการบริษัทที่เป็นผู้บริหารร้านอาหารแห่งนี้ระบุว่า “ เราอยากส่งเสริมให้เกียวโตเป็นเมืองแห่งสาเก เพื่อให้นักท่องเที่ยวที่เดินทางไปศาลเจ้าแวะมาที่ร้านเราสักหน่อย ”
ขณะเดียวกัน เขตโอฮาระ ทางเหนือของเกียวโต มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักจากวัดจัคโคอิน และซันเซนิน ที่กำลังอยู่ในภาวะดิ้นรนเพื่อชุบชีวิตใหม่ให้กับบริเวณนี้ ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมในการสำรวจเมื่อ 40 กว่าปีก่อน
โดยตั้งแต่ปี 2538 เป็นต้นมา เขตพื้นที่นี้ไม่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวได้มากเหมือนแต่ก่อน เพราะมีน้อยคนที่จะขับรถมาเยือนบริเวณนี้ หากเดินทางจากสถานีเกียวโต มีรถบัสเพียง 2 – 3 คันต่อชั่วโมงที่ให้บริการอยู่
ถึงแม้การทำให้เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวจะเป็นเรื่องท้าทาย แต่เจ้าหน้าที่ของเมืองคนหนึ่งระบุว่า เขตนี้มีศักยภาพสูง และ “ เราสามารถปรับปรุงการเข้าถึงเมืองด้วยการรวมระบบรางเข้าด้วยกัน และหวังว่าจะดึงดูดนักท่องเที่ยวได้มากขึ้นอีกครั้ง ด้วยการหาวิธีการสร้างสรรค์เพื่อให้พวกเขาสนใจ”