ตื่นตัวภาษีที่ดินฯกระตุ้นยอดรับสร้างบ้านโต
แลนดี้โฮม โหมขยายตลาดรับสร้างบ้านครึ่งปีหลัง รับการเติบโต เผยภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง กระตุ้นการตัดสินใจปลูกสร้างบ้าน คาดดันมูลค่าตลาดรวมปีนี้ 14,000-16,000 ลบ.ล่าสุด เปิดตัวสาขาสุขุมวิท เจาะกลุ่มลูกค้าระดับกลางถึงไฮเอนด์กลุ่ม 30-150 ลบ.
นางสาวพรรัตน์ มณีรัตนะพร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและผู้อำนวยการฝ่ายขายบริษัท แลนดี้ โฮม (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยถึงภาพรวมและทิศทางของธุรกิจรับสร้างบ้านในช่วงครึ่งแรกของปี 2562 ว่า ทิศทางน่าจะเป็นบวก เนื่องจากในช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมา พบความต้องการสร้างบ้านและกำลังซื้อผู้บริโภคเพิ่มมากขึ้น โดยมูลค่าการก่อสร้างขยายตัวเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงปีก่อนๆ อีกทั้งผู้บริโภคมีอัตราการปลูกสร้างในปัจจุบันเพิ่มมากขึ้น ซึ่งนิยมเลือกใช้บริการผู้ประกอบการรายใหญ่และมีการให้บริการแบบครบวงจร
“ลูกค้าตื่นตัวเรื่องภาษีที่ดินและสิ่งปลกสร้าง และราคาวัสดุก่อสร้างที่ปรับขึ้น ส่งผลให้รีบตัดสินใจปลูกสร้างบ้าน ทำให้ยอดจองไตรมาสแรกเกิน 600 ล้านบาท ในขณะที่ภาพรวมของตลาดรับสร้างบ้านปีนี้ น่าจะทำได้ 14,000-16,000ล้านบาท ซึ่งผลจากภาษีที่ดินฯ ทำให้มูลค่าเพิ่มขึ้นมาอีก 10% โดย แลนดี้โฮม มีส่วนแบ่งในตลาดประมาณ40 % “
อย่างไรก็ตามในปี 2562 นี้ บริษัทมีแผนดำเนินธุรกิจในการเพิ่มสาขาใหม่อย่างต่อเนื่อง ภายใต้การบริการและนวัตกรรมอันทันสมัย ซึ่งถือเป็นกลยุทธ์หลักที่บริษัทให้ความสำคัญเพื่อนำไปสู่การเติบโตทางธุรกิจ ล่าสุบริษัทได้ขยายสาขาสุขุมวิทซึ่งเป็นสาขาที่ 8 เจาะกลุ่มลูกค้าผู้อยู่อาศัยบ้านเดี่ยวระดับกลางจนถึงระดับไฮเอนด์ ที่มีราคาตั้งแต่ 30-150 ล้านบาท ทั้งนี้ในช่วงเปิดสาขาใหม่ บริษัทได้จัดแคมเปญโปรโมชั่นพิเศษให้กับลูกค้า เช่น ฟรีเสาเข็มเจาะ อัพเกรดห้องน้ำผู้สูงอายุ ระบบบ้านปลอดแมลงสาบ อัพเกรดวัสดุ เป็นต้น
นอกจากนี้บริษัทได้มีการพัฒนาระบบก่อสร้างกึ่งสำเร็จรูป โนวา ซีสเตม ที่ใช้เทคโนโลยีการก่อสร้างขั้นสูงจากญี่ปุ่น มีการควบคุมคุณภาพชิ้นส่วนทุกขั้นตอนการผลิตจากโรงงาน รวมไปถึงการมุ่งมั่นและใส่ใจกับลูกค้าทุกรายได้พัฒนานวัตกรรมบ้านผู้สูงอายุ Landy Elder Care
สำหรับผลการดำเนินงานในปี 2561 ที่ผ่านมา สามารถปิดยอดสัญญาสร้างบ้านได้กว่า 2,000 ล้านบาท ทั้งนี้บริษัทตั้งเป้าหมายมีอัตราการเติบโตอยู่ที่ 5-10% ต่อปี.