อเมซอนขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเป็น 15 ดอลลาร์/ชั่วโมง
เมื่อวันที่ 2 ต.ค.อเมซอนประกาศว่า บริษัทได้ปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำสำหรับพนักงานสหรัฐฯเป็น 15 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อชั่วโมง โดยให้มีผลบังคับใช้ในเดือนพ.ย.
บริษัทระบุว่า ค่าแรงขั้นต่ำจะเป็นประโยชน์กับพนักงานของอเมซอนมากกว่า 250,000 คน (รวมทั้งพนักงานพาร์ทไทม์และพนักงานชั่วคราว) รวมทั้งพนักงานช่วงวันหยุดเทศกาลอีก 100,000 คน โดยพนักงานบางส่วนซึ่งได้ค่าจ้าง 15 ดอลลาร์ฯต่อชั่วโมงอยู่แล้ว จะได้รับค่าจ้างเพิ่มขึ้นเช่นกัน
โดยอเมซอนระบุว่า ผลกระทบจากค่าจ้างที่เพิ่มขึ้นจะส่งผลสะท้อนในแนวโน้มล่วงหน้าประจำไตรมาส หุ้นของอเมซอนลดต่ำลงกว่า 1% ก่อนเปิดตลาดซื้อขาย
บริษัทและซีอีโอเจฟฟ์ เบซอสกำลังเผชิญกับคำวิจารณ์ถึงความแตกต่างของค่าจ้างจากวุฒิสมาชิก Bernie Sanders ในเดือนก.ย.โดยเขามีเป้าหมายที่จะทำให้บริษัทยักษ์ใหญ่อย่างอเมซอน และวอลล์มาร์ทรู้สึกละอายใจ เพราะในขณะที่มูลค่าหุ้นของอเมซอนในตลาดพุ่งขึ้นไปแตะระดับ 1 ล้านล้านดอลลาร์เป็นบริษัทแห่งที่ 2 ตามหลังแอปเปิล แต่พนักงานของบริษัทจำนวนมากได้รับค่าจ้างน้อยจนต้องพึ่งพาแสตมป์อาหารของรัฐบาล โดยเขาเรียกร้องให้มีการออกกฎหมายที่ยุติเงินชดเชยจากภาครัฐที่ให้กับบริษัท และทำให้เบซอสต้องจ่ายภาษีเงินได้นิติบุคคลสำหรับทุกดอลลาร์ที่พนักงานรายได้น้อยของบริษัทได้รับสวัสดิการรักษาพยาบาล หรือแสตมป์อาหารจากภาครัฐ
อเมซอนเริ่มจ่ายเงินในอัตราที่แตกต่างกันตามที่ตั้ง เช่น 10 ดอลลาร์สหรัฐฯ ที่คลังสินค้าในเมืองออสเตน รัฐเท็กซัส และ 13.50 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อชั่วโมงในเมืองรอบบินสวิลล์ รัฐนิวเจอร์ซีย์ สำหรับปี 2560 รายได้เฉลี่ยของพนักงานอเมซอนต่ำกว่า 28,500 ดอลลาร์สหรัฐฯ อ้างอิงจากข้อมูลของบริษัท ในขณะที่เบซอสได้ 1.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
“ เรารับฟังเสียงที่วิจารณ์เรา เราคิดหนักกับสิ่งที่เราอยากจะทำ และตัดสินใจว่าเราต้องการที่จะนำหน้าคนอื่น ” เบซอสระบุในแถลงการณ์ “ เราตื่นเต้นกับความเปลี่ยนแปลงนี้ และสนับสนุนคู่แข่งของเราและนายจ้างรายใหญ่รายอื่นให้เข้าร่วมกับเรา”
โดยคู่แข่งค้าปลีกอย่าง Target ประกาศในช่วงวันหยุดว่า จะปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำต่อชั่วโมงเป็น 15 ดอลลาร์สหรัฐฯภายในปี 2563 ขณะที่วอลล์มาร์ทได้ประกาศแผนในเดือนม.ค.ที่จะปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเป็น 11 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อชั่วโมง
คำประกาศของอเมซอนมีขึ้นก่อนหน้าวันหยุดประจำปีของอเมซอนที่มีการผลักดันเรื่องการจ้างงาน ในปี 2560 ยักษ์ใหญ่อีคอมเมิร์ซระบุว่าจะจ้างงานพนักงานชั่วคราวมากถึง 120,000 คนสำหรับช่วงวันหยุดเทศกาล
ในเดือนส.ค. การเติบโตของค่าจ้างระดับประเทศมีการปรับขึ้นครั้งใหญ่จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ อ้างอิงจากสำนักสถิติแรงงาน เงินเดือนเป็นไปตามการคาดการณ์ และอัตราการว่างงานต่ำที่สุดในรอบเกือบชั่วอายุคนอยู่ที่ 3.9% ทำให้การจ้างงานช่วงวันหยุดยากขึ้นสำหรับผู้ค้าปลีกจำนวนมาก.