อเมซอนเล็งเปิดร้านไร้แคชเชียร์ 3 พันแห่งใน 3 ปี
อเมซอน บริษัทยักษ์ใหญ่อีคอมเมิร์ซในสหรัฐฯ กำลังพิจารณาแผนการเปิดร้านไร้แคชเชียร์ถึง 3,000 ร้านภายในปี 2564 อ้างอิงจากแหล่งข่าวที่ใกล้ชิดในประเด็นนี้
การเปิดร้านรูปแบบใหม่ไร้แคชเชียร์อย่าง AmazonGo ของอเมซอนจะกลายเป็นความท้าทายสำหรับเชนร้านสะดวกซื้อยักษ์ใหญ่อย่าง 7-Eleven ร้านขายแซนด์วิชแบบด่วนอย่าง Subway และ Panera Bread รวมถึงร้านโชห่วยและรถขายทาร์โกด้วย
เจฟฟ์ เบซอส ซีอีโอของอเมซอนเล็งเห็นโอกาสทางธุรกิจ เมื่อหลายคนไม่มีเวลารับประทานอาหารเป็นมื้อในเมืองใหญ่ที่เร่งรีบ โดยเขาจะจัดตั้งร้านสะดวกซื้อที่ขายอาหารสดพร้อมปรุง รวมทั้งของชำที่คัดสรรแล้วที่คล้ายกับแฟรนไชส์ร้าน 7- Eleven และเป็นร้านที่ขายอาหารจานด่วนพร้อมรับประทานสำหรับลูกค้าที่เร่งรีบ เหมือนกับร้าน Pret a Manger ในสหราชอาณาจักร แหล่งข่าวระบุ
แต่อุปสรรคสำคัญของแผนการนี้คือค่าใช้จ่ายในการเปิดร้านแต่ละแห่ง โดยร้านต้นแบบของ AmazonGo ที่อยู่ในตัวเมืองซีแอตเทิลใช้งบประมาณกว่า 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เฉพาะด้านฮาร์ดแวร์อย่างเดียว อ้างอิงจากแหล่งข่าว การลดจำนวนอาหารพร้อมรับประทานจะเป็นการลดค่าใช้จ่ายในการเปิดร้าน เพราะต้องการกล้องและเซ็นเซอร์น้อยลง แต่อาหารพร้อมรับประทานมีกำไรมากกว่าของชำ ซึ่งจะช่วยให้ร้านคืนทุนและมีกำไรเร็วขึ้น
การเปิดร้านเพิ่มจะทำให้บริษัทกลับมาสู่วงจรการลงทุนอีก เบซอสตั้งใจจะใช้จ่ายเงินในการสร้างเทคโนโลยีในระยะยาวเมื่อเขาเห็นโอกาส Amazon Web Services ซึ่งเป็นธุรกิจระบบคลาวด์ที่มีการขยายตัวเติบโตและมีผลกำไรเร็ว ยังต้องใช้เวลาหลายปีกว่าจะมีกำไรและทำให้เงินทุนของเบซอสจมลงไปกับธุรกิจนี้นาน
การเปิดร้านสะดวกซื้อ 3,000 ร้าน จะทำให้อเมซอนติดอยู่ในกลุ่มเชนร้านสะดวกซื้อที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐฯ โดยอเมซอนกำลังพิจารณาแผนการที่จะเปิดร้านประมาณ 10 แห่งภายในสิ้นปีนี้ ประมาณ 50 ร้านในพื้นที่เมืองใหญ่ในปี 2562 และทำให้ได้ถึง 3,000 แห่งในปี 2564 อ้างอิงจากแหล่งข่าวที่ไม่ประสงค์เอ่ยนาม การเปิดร้านในหลายพื้นที่ อาจช่วยให้อเมซอนลดค่าใช้จ่ายด้วยการมีศูนย์กลางการผลิตอาหารในครัวเดียวที่รองรับได้หลายร้าน
ปัจจุบัน สหรัฐฯ มีร้านสะดวกซื้อประมาณ 155,000 ร้าน โดย 122,500 ร้านตั้งอยู่ในสถานีบริการน้ำมัน อ้างอิงจากข้อมูลของกลุ่มอุตสาหกรรม NACS โดยยอดขายที่ไม่ใช่น้ำมันอยู่ที่ 233,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯในปี 2559 โดยบุหรี่และผลิตภัณฑ์ยาสูบอื่นๆเป็นสินค้าขายดีที่สุด
ทั้งนี้ อเมซอนตั้งเป้าไปที่พื้นที่ในตัวเมืองชั้นในที่มีคนหนุ่มสาวจำนวนมากที่ใช้ชีวิตรีบเร่ง และชอบใช้เงินมากขึ้นอีกนิดกับอาหารจานด่วนที่มีคุณภาพมากขึ้น ทำให้อเมซอนจะไม่เป็นคู่แข่งของร้านสะดวกซื้อที่อยู่ในสถานีบริการน้ำมันในพื้นที่นอกเมือง แต่จะเป็นคู่แข่งหลักกับร้านอาหารพร้อมรับประทานที่ให้บริการอย่างรวดเร็ว เช่น Subway , Panera Bread และ Pret a Manger โดย Pret a Manger ซึ่งเป็นแบรนด์สัญชาติอังกฤษมี 450 สาขาทั่วโลก รวมทั้งนิวยอร์ก บอสตัน และชิคาโก โดยเน้นที่ความสดของอาหารเพื่อสุขภาพ.