“อิสระ” แฉ ขบวนการหลอกเช่าซื้อรถ ทำแท็กซี่กระโดดน้ำตาย
“อิสระ” แฉ ขบวนการหลอกเช่าซื้อรถ ทำแท็กซี่กระโดดน้ำตาย หวด ปัญหาตัดหนี้หนี้สหกรณ์แนวตั้ง ทบต้น ทบดอกรีดเกษตรกร แถมตำรวจถูกหักเงินเดือนในบัญชีเกลี้ยง เสี่ยงไปรีดไถ
วันที่ 1 ก.ย. ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาฯ มีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณาญัตติด่วน เรื่องขอให้สภาฯ พิจารณาแนวทางแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ โดยนายอิสระ เสรีวัฒนวุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ปชป.อภิปราย ว่า ถ้าจะแก้หนี้นอกระบบให้ราบคาบ ต้องแก้หนี้ในระบบเสียก่อน หนึ่งในต้นตอของหนี้นอกระบบคือ คนไทยโดนเจ้าหนี้ในระบบหลอกหลายเรื่อง อาทิ โดนหลอกเรื่อง “หนี้ผ่อนรถ” ทั้งๆที่จริงมันคือ “การเช่าซื้อ” จะเก็บดอกเบี้ยเท่าไหร่ก็ได้ ไม่มีอัตรากำหนด ไม่เหมือนกับการผ่อนรถที่มีกำหนดอัตราดอกเบี้ยไว้ สมมติ ซื้อรถมา 500,000 บาท ผ่อนไปเรื่อยจนเหลือหนี้3,000 บาท แต่ผ่อนต่อไม่ไหว เต็มที่ก็ถูกเจ้าหนี้ยึดของคืน ไม่เกินวงเงิน 3,000 บาท แตกต่างจากการเช่าซื้อ ถ้าผ่อนไม่ไหวแต่เหลือหนี้สามพัน เจ้าหนี้เขาก็ยึดรถได้ทั้งคัน แบบนี้พี่น้องแท็กซี่ถึงต้องเรียงแถวไปกระโดดน้ำตาย ซึ่งรัฐก็รู้แต่หรี่ตาข้างนึง ถ้ามองในแง่ร้ายหน่อยก็คือ พอเป็นการเช่าซื้อคือเป็นการประกอบธุรกิจ รัฐเก็บได้ทั้งภาษีมูลค่าเพิ่ม ธุรกิจเฉพาะ และอื่น ๆ อีกมากมาย แต่ถ้าเป็นการผ่อนรถจริงๆ เก็บภาษีได้น้อยมากหรือเก็บแทบไม่ได้ นี่คือหลอก แรก
นายอิสระ อภิปรายอีกว่า หลอกที่สอง คือเรื่องของลำดับตัดหนี้ เช่น หนี้สหกรณ์ ใช้การตัดหนี้แนวตั้งพอจ่ายหนี้ไปปุ๊บ เงินจะไปตัดที่ดอกเบี้ยกับค่าธรรมเนียมก่อนแล้วค่อยมาตัดต้น ยกตัวอย่าง เกษตรกรคนหนึ่งกู้สหกรณ์มา 100,000 บาท ผ่อนชำระ 10 เดือน กำหนดเดือน ละ 10,000 บาท ดอกเบี้ย 15% ตกเดือนละ 1,500 บาท ค่าธรรมเนียมอีกเดือนละ 500 บาท สรุปแต่ละเดือน ต้องจ่าย 12,000 บาท แต่ความจริงไม่เหมือนโลกอุดมคติ หากเกษตรกรเจอโควิดเล่นงาน จ่ายไม่ได้ทั้ง 10 งวด ดอกเบี้ยก็วิ่งไปเรื่อย วันดีคืนดี ฟ้าฝนเป็นใจได้เงินก้อนมา 20,000 บาท หวังเอาไปโปะหนี้ ก็ไม่ได้เพราะโดน ค่าธรรมเนียม 5,000 บาท ดอกเบี้ยอีก 15,000 บาท เงินต้นที่เดิมมี 100,000 บาท ก็ยังมีอยู่เหมือนเดิม ดังนั้น จึงควรตัดหนี้แบบแนวนอน ก็คือ ตัดเงินต้น ทั้งดอกเบี้ย และค่าธรรมเนียม เกษตรกร จึงจะมีทางจบหนี้ได้ ซึ่งเรื่องนี้ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่ เป็นเรื่องที่แบงค์ชาติก็คุมธนาคารพาณิชย์ทุกแห่ง ให้ทำแบบนี้ตั้งแต่ปี 2563 แต่สหกรณ์ยังไม่ได้รับการควบคุม
นายอิสระ กล่าวอีกว่า เรื่องของความเดือดร้อนของสมาชิกสหกรณ์ ที่เป็นข้าราชการ ที่พอสหกรณ์ไปปล่อยกู้ให้เขาเกินตัวแล้ว ถึงเวลาก็มาหักจากเงินเดือนเขา จนกระทั่งเดือนนึงเหลืออยู่หลักสิบ ไม่พอที่จะใช้จ่ายแต่ละเดือน ตนได้มีโอกาสคุยกับตำรวจคนหนึ่ง เอาสลิปมาให้ดู จะได้เห็นภาพชัดๆ เงินเดือนคนนี้ 20,790 บาท ถูกสหกรณ์หักแต่ละเดือน 20,745 บาท ได้รับอยู่ทุกเดือน เดือนละ 44 บาทกว่าๆ พอทำงานสู้หนี้ แต่หนี้สู้กลับ ถ้าเป็นตำรวจดีก็ไปเป็นหนี้นอกระบบ ถ้าเป็นตำรวจแย่ก็ไปรีดไถ ไปเรียกส่วยตามที่เป็นข่าว ถึงเวลาแล้วที่ต้องเลิกหากินด้วยวิธีนี้ กับคนมีรายได้น้อย ต้องเลิกหากินวิธีนี้กับคนหาเช้ากินค่ำ ถึงเวลาที่ ต้องหยุดกระบวนการขุดบ่อล่อปลา รัฐต้องเลิกหรี่ตาข้างเดียว ต้องแก้วันนี้ ก่อนที่จะไม่มีพรุ่งนี้สำหรับพวกเขา