แบงก์เดนมาร์กฟอกเงินฉาวสุดในยุโรป
คณะกรรมาธิการยุโรปย้ำชัดว่าคดีฟอกเงินจำนวน 200,000 ล้านยูโร (7.66 ล้านล้านบาท) ที่ธนาคารรายใหญ่ที่สุดของเดนมาร์กเป็นเรื่องอื้อฉาวที่สุดในยุโรป
Věra Jourová คณะกรรมาธิการยุโรปฝ่ายยุติธรรมระบุว่า เธอขอหมายเรียกรัฐมนตรีจากเดนมาร์กและเอสโทเนียเพื่อให้มาอธิบายว่าผู้บริหารของ Danske Bank และเจ้าหน้าที่รัฐที่กำกับดูแลผิดพลาดกับเรื่องอื้อฉาวนี้ได้อย่างไร
“ ฉันต้องการทราบเพื่อให้เข้าใจมากขึ้นว่าเรื่องผิดพลาดเกิดขึ้นที่ตรงไหน เป็นความผิดพลาดของทางธนาคารเอง หรือของเจ้าหน้าที่รัฐระดับอาวุโส ” เธอกล่าวกับผู้สื่อข่าวเมื่อวันที่ 20 ก.ย. เธอเสริมว่า “ นี่เป็นเรื่องอื้อฉาวที่สุดที่เรามีตอนนี้ในยุโรป และยังเป็นบทเรียนที่ไม่น่าพอใจมาก ชี้ให้เห็นว่าต้องมีความรอบคอบและระมัดระวังในการตรวจสอบมากขึ้น ”
นายกรัฐมนตรีของเดนมาร์กยังแสดงความตกใจถึงมูลค่าความเสียหายของเรื่องฉาวนี้ โดยระบุว่าเป็นเรื่องน่าตกใจมาก และเขารับปากว่าจะจัดการกับ Danske Bank และผู้บริหารอย่างถึงที่สุด
Thomas Borgen ประธานกรรมการบริหาร Danske Bank ขอลาออกเมื่อวันที่ 19 ก.ย. หลังยอมรับว่ามีเงินไหลผ่านเข้ามาในธนาคารสาขาเอสโทเนียและไหลออกอย่างผิดกฎหมายไปที่รัสเซีย สหราชอาณาจักร และหมู่เกาะบริติช เวอร์จิ้น
“ ชัดเจนว่าธนาคารล้มเหลวกับหน้าที่ความรับผิดชอบในกรณีการฟอกเงินในเอสโทเนีย ผมรู้สึกเสียใจมาก ” เขาระบุในแถลงการณ์ลาออกเมื่อวันที่ 19 ก.ย.ที่ผ่านมา
Lars Løkke Rasmussen นายกรัฐมนตรีเดนมาร์กระบุว่า เขารู้สึกโกรธมากกับการฟอกเงินมูลค่ามหาศาลที่สาขาของ Danske Bank ในเอสโทเนีย ผลการสอบสวนพบว่ามีลูกค้าธนาคารกว่า 15,000 คนในเอสโทเนียที่เป็นผู้ต้องสงสัยว่ามีส่วนเกี่ยวข้องในการทำธุรกรรมนี้
“ ความจริงที่ว่าเดนมาร์กเป็นศูนย์กลางของการฟอกเงินที่มีมูลค่ามากมายขนาดนี้ มันทำให้รู้สึกแย่มากจริงๆ ” นายกฯ Rasmussen กล่าวกับผู้สื่อข่าวในการประชุมสหภาพยุโรปใน Salzburg การที่ผู้บริหารธนาคารลาออกเพื่อแสดงความรับผิดชอบนั้น เขาระบุว่า “ คดีจะไม่จบแค่นี้ ”
หน่วยงานกำกับดูแลด้านการเงินของเดนมาร์กระบุว่า ได้เปิดการสอบสวนธนาคารอีกครั้ง
“ เรากำลังเริ่มต้นการสอบสวนของธนาคาร ซึ่งเราปิดไปตั้งแต่แรกในเดือนพ.ค. ” Joseph Berg ประธาน FSA ของเดนมาร์กกล่าวกับสถานี TV 2 เมื่อวันที่ 20 ก.ย. “ เมื่อมีการเปิดเผยข้อมูลใหม่ เราจะเห็นว่ามีอะไรเข้ามาอีก เราติดตามเรื่องนี้มาตั้งแต่เดือนพ.ค. แต่ตอนนี้สิ่งที่เรามีในคดีนี้ยิ่งเข้มข้นขึ้น ”
เมื่อต้นสัปดาห์นี้ นักการเมืองเดนมาร์กมีมติเห็นชอบให้เพิ่มโทษปรับสูงสุด 8 เท่าสำหรับคดีการฟอกเงิน ทำให้เดนมาร์กเป็นประเทศหนึ่งที่มีอำนาจศาลเด็ดขาดรุนแรงที่สุดในยุโรป อย่างไรก็ตาม กฎหมายใหม่จะไม่มีผลครอบคลุมกรณีการฟอกเงินในเอสโทเนีย ซึ่งเกิดขึ้นในระหว่างปี 2550 – 2558
Rasmus Jarlov รมว.ที่กำกับดูแลด้านธุรกิจของเดนมาร์กระบุว่า เขาคาดว่าทางการเดนมาร์กจะสั่งปรับแบงก์ Danske จำนวน 4,000 ล้านโครเนอร์เดนมาร์ก ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าธนาคารจะถูกปรับเป็นจำนวนเงินหลายพันล้านดอลลาร์ ขณะที่ทางแบงก์ระบุเมื่อวันที่ 19 ก.ย.ว่า จะบริจาคเงิน 1,500 ล้านโครเนอร์ให้กับองค์กรการกุศลที่มุ่งเน้นเรื่องการต่อสู้กับอาชญกรรมการเงินระดับนานาชาติ
เขาเสริมว่า “ เราตระหนักดีว่า ทางการของชาติต่างๆกำลังจับตามองแบงก์ของเดนมาร์ก แต่ที่สำคัญกว่านั้นคือเรารับมือกับเรื่องนี้ในเดนมาร์ก ให้แน่ใจว่าไม่มีใครที่จะรู้สึกว่าเราไม่เอาจริงกับเรื่องนี้ ”
Bill Browder ผู้จัดการกองทุนเฮดจ์ฟันด์สหรัฐฯ ซึ่งเป็นผู้นำในการรณรงค์ต่อต้านคอร์รัปชันและการฟอกเงินของกลุ่มเศรษฐีรัสเซียที่ทรงอิทธิพล เขาอ้างว่าสาขาธนาคารในเอสโทเนียมีส่วนรู้เห็นในความผิดพลาดจากการเปิดเผยของทนายของเขาคือ Sergei Magnitsky ซึ่งถูกทำร้ายจนเสียชีวิตในเรือนจำรัสเซีย
มูลค่าหุ้นของธนาคารร่วงลงไปถึง 28% ตั้งแต่ต้นปีจนถึงตอนนี้.