บิ๊กป้อม เยือนแปดริ้ว เตรียมอนุมัติ 100 ล้าน ป้องกันน้ำท่วม
บิ๊กป้อม เยือนแปดริ้ว เตรียมอนุมัติ 100 ล้าน ป้องกันน้ำท่วม ยัน ไม่ท่วมเหมือนปี 54
วันที่ 1 ก.ย. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ตรวจราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา โดยมี นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ร่วมคณะลงพื้นที่ พร้อมมี ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ให้การต้อนรับ อาทิ นายชัยวัฒน์ เป้าเปี่ยมทรัพย์ ส.ส.ฉะเชิงเทรา เขต 2 นายกิตติ เป้าเปี่ยมทรัพย์ นายก อบจ. จ. ฉะเชิงเทรา นายรณเทพ อนุวัฒน์ ส.ส.ชลบุรี เขต3 นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ ส.ส.ชลบุรี เขต 4 น.ส.ไพลิน เทียนสุวรรณ ส.ส.สมุทรปราการ เขต 7 รวมถึง น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ทีมโฆษกพรรค
พล.อ.ประวิตร ได้ติดตามสถานการณ์การบริหารจัดการน้ำ และความพร้อมในการพัฒนาโครงการต่างๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพจัดหาแหล่งน้ำต้นทุน โดยได้ตรวจ สถานีผลิตน้ำประปาฉะเชิงเทรา และเยี่ยมชมคลองนครเนื่องเขต (คลองท่าไข่) โดยมีนายไมตรี ไตรติลานันท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา นำเสนอสภาพปัญหาของพื้นที่ ของจังหวัดที่แบ่งออกเป็น 2ฝั่ง ของแม่น้ำบางประกง พร้อมด้วยนายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน และนายเอกชัย อัตถกาญน์นา รองผู้ว่าการประปาส่วนภูมิภาค ปฎิบัติการ 3 นำเสนอการบริหารสถานการณ์น้ำ และงบประมาณในการดูแลระบบน้ำ ทั้งในด้านการจัดหาน้ำแหล่งน้ำต้นทุนในและนอกพื้นที่ การผลักดันน้ำเค็มที่ต้องลดปริมาณความเค็มในช่วงฤดูแล้ง
พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ในส่วนของการบริหารจัดการน้ำ ซึ่งได้มีการเตรียมการในระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว เพื่อการเตรียมการเรื่องน้ำดิบที่จะใช้ถึงปี 2580 โดยเฉพาะอย่างยิ่งน้ำเค็มจะต้องป้องกันในจุดพื้นที่บางปะกง เราไม่สามารถเอาน้ำดิบมาไล่ระบบนิเวศได้ตลอด ขอฝากพวกเราช่วยกันดู รัฐบาลได้ให้งบประมาณเกี่ยวกับเรื่องน้ำมาทุกปี โดย สทนช.ได้รายงานให้ทราบ โดยกรมชลประทานได้มีการเตรียมการต่างๆในการให้ประชาชนไม่ได้รับความเดือดร้อนในการใช้น้ำ
ดังนั้นการประปาต้องเตรียมการสำรองเพื่อป้อนให้เพียงพอต่อความต้องการของประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาเรื่องป้องกันน้ำเค็มที่จะรุกล้ำเข้าไปในพื้นที่จังหวัดปราจีนบุรี ในสัปดาห์หน้าเราก็จะอนุมัติงบประมาณกว่า 100 ล้านบาท ไปในการศึกษาในการที่จะทำประตูน้ำป้องกันน้ำเค็ม ทางด้านฝั่งบางปะกง
ขณะเดียวกัน กรมชลประทานก็จะเร่งหาแหล่งน้ำต้นทุน เร่งก่อสร้างแหล่งน้ำที่ได้รับงบประมาณให้แล้วเสร็จและสามารถบริหารจัดการน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของการประสานงานกับกระทรวงทรัพยากร ในการอนุมัติพื้นที่อ่างเก็บน้ำวังตะโหนด ถ้าเราได้มาทำให้การกระจายน้ำดีขึ้นมาก และสามารถกักเก็บน้ำไว้ใช้ในช่วงหน้าแล้ง ทำให้ประชาชนอยู่ดีกินดีเพิ่มมากขึ้น ส่วนการป้องกันน้ำในช่วงฤดูฝนได้สั่งการให้มีการกระจายน้ำจากภาคเหนือไม่ให้มีน้ำท่วม และยืนยันว่าน้ำในปีนี้จะไม่ท่วมเหมือนปี 2554 เพราะเราพยายามทำอยู่ตลอดเวลาและทุกพื้นที่ ผ่านกลไกคณะกรรมการลุ่มน้ำ 22 ลุ่มน้ำในการกำกับประสาน กับคณะกรรมการน้ำจังหวัดทุกจังหวัดในการที่จะดูว่าน้ำยังมีมากขึ้นหรือน้อยลง หรือจะแล้ง เราทำมา 3 ปี แล้ว ไม่มีแล้งเลย ไม่มีประกาศหน่วยแล้งเพิ่มขึ้นในทุกพื้นที่ รัฐบาลมีความห่วงใยอย่างมากกับผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับประชาชน จึงได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ปัญหาดังกล่าวโดยเร็ว
“ถ้าประชาชนไม่มีน้ำ ก็ด่ารัฐบาล ประชาชนมีอย่างเดียวคือต้องด่ารัฐบาล แต่ต้องขอความความเห็นใจให้ข้าราชการทุกคนที่พยายามทำงานให้พวกเราได้อยู่ดีกินดีขึ้นเพื่อความเป็นอยู่ที่ดี และเข้าใจน้ำเค็มที่ทะลักเข้ามาจะมีผล โดยเฉพาะน้ำประปาเพื่อการอุปโภคบริโภคของประชาชนในพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทราจำเป็นอย่างยิ่งที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องเร่งหาแนวทางเพื่อให้เป็นระบบในระยะยาวเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาซ้ำซากทุกๆปี ในการที่เป็นข้าราชการถือเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของประชาชน อย่าคิดว่าเราเป็นนายของประชาชน เรากินเงินเดือนภาษีราษฎรฉะนั้นต้องจำไว้ด้วยว่าเราจะต้องประสานงานกับประชาชนทุกอย่างให้ร่วมมือการทำงาน” พล.อ.ประวิตร กล่าว
พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ให้มีการบูรณาการสร้างการรับรู้ส่งเสริมให้ภาคประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาเรื่องน้ำในทุกพื้นที่ ประชาชนมีเรื่องเดือดร้อนอะไรก็ต้องบอกให้ข้าราชการ และข้าราชการต้องสนองต่อความต้องการของประชาชนนั่นเป็นเรื่องธรรมดา ที่รัฐบาลต้องการให้ข้าราชการทำงานอย่างเต็มที่สนองตอบนโยบายของรัฐบาลและสนองต่อความต้องการของประชาชน พร้อมกันนี้ขอเป็นกำลังใจให้กับข้าราชการทุกคนที่มุ่งมั่นปฏิบัติงานอย่างเต็มกำลังเต็มความสามารถ เพื่อช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ประชาชน ขอให้ทุกท่านตระหนักเสมอว่าเราเป็นข้าราชการต้องทำงานเพื่อประชาชนและประเทศชาติ จงมุ่งมั่นทุ่มเทปฏิบัติงานและทำหน้าที่ให้เต็มความรู้ความสามารถในการสนองตอบความต้องการของประชาชน และให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการทำงาน
พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า อย่างไรก็ตามได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการ ทั้ง สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติแห่งชาติ ประสานบูรณาการขับเคลื่อนบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ภาคตะวันออก ป้องกันแก้ปัญหาระยะเร่งด่วนครอบคลุมถึงระยะยาว โดยเฉพาะการป้องกันปัญหาน้ำเค็มที่จะรุกล้ำเข้าในพื้นที่จังหวัดปราจีนบุรี อาทิตย์หน้านี้เราจะอนุมัติงบประมาณ 100 กว่าล้านบาท เพื่อศึกษาการทำประตูน้ำป้องกันน้ำเค็ม ขณะที่กรมชลประทานต้องหาแหล่งน้ำต้นทุน เร่งก่อสร้างเร่งแหล่งน้ำที่ได้รับงบประมาณให้แล้วเสร็จสามารถบริหารจัดการน้ำได้มีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะการประสานงานกับกระทรวงทรัพย์ฯ