กบน.ตรึงราคาดีเซลลิตรละ 35 บาท
ผลการประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) เพื่อทบทวนสถานการณ์ราคาน้ำมันประจำสัปดาห์สุดท้ายของเดือนส.ค. 2565 ยังคงมีมติตรึงราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลไว้ที่ลิตรละ 35 บาท โดยฐานะกองทุนน้ำมันติดลบ 1.19 แสนล้านบาท
นายวิศักดิ์ วัฒนศัพท์ ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) ได้พิจารณาทบทวนราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลประจำสัปดาห์ โดยมีมติให้คงราคาน้ำดีเซลไว้ที่ลิตรละ 34.94 บาท เพื่อช่วยบรรเทาผลกระทบด้านค่าครองชีพ
ของประชาชนถึงแม้ราคาน้ำมันยังคงผันผวนปรับตัวเพิ่มขึ้น ราคาน้ำมันดีเซล (GAS OIL) วันนี้ (30 ส.ค. 2565) ปรับเพิ่มขึ้นเป็น 145.48 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล หรือเพิ่มขึ้น 10.75 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลจากสัปดาห์ก่อนหน้า (19 ส.ค. 2565) ซึ่งราคาดีเซลอยู่ที่ 134.73 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล
ปัจจัยหลักที่ทำให้ราคาน้ำมันผันผวน มาจากทั้งด้านกลุ่มประเทศโอเปกพลัส ที่อาจจะปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันได้ทุกเวลาเพื่อรับมือกับสถานการณ์ที่ท้าทาย ส่วนทางกลุ่มประเทศยุโรป มีความกังวลจากสถานการณ์ด้าน Supply ก๊าซธรรมชาติตึงตัวหลังจากบริษัท Gazprom ของรัสเซียยังคงหยุดส่งออกก๊าซธรรมชาติไปยังประเทศในยุโรปส่งผลให้ราคาก๊าซในยุโรปปรับตัวสูงขึ้นมาก ทำให้ผู้บริโภคหันมาใช้น้ำมันแทนก๊าซธรรมชาติเพิ่มมากขึ้น
นอกจากนี้ ด้านสหรัฐฯ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) อาจจะส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมัน รวมทั้งสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) ประกาศตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯ สัปดาห์สิ้นสุดเมื่อวันที่ 19 สิงหาคม ที่ผ่านมา ปรับลดลง 3.3 ล้านบาร์เรล สู่ระดับที่ 421.7 ล้านบาร์เรล
อย่างไรก็ดี ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 21 มิ.ย. 2565 ได้วางมาตรการอุดหนุนราคาน้ำมันดีเซล 50% ในส่วนที่ราคาขายสูงกว่าลิตรละ 35 บาทเป็นเวลา 3 เดือน (ก.ค. – ก.ย. 2565) แต่มาตรการดังกล่าวยังไม่ได้นำมาปรับใช้แต่อย่างใด เนื่องจากต้องการบรรเทาผลกระทบให้ประชาชน ซึ่งปัจจุบันราคาน้ำมันดีเซลที่แท้จริงยังคงสูงกว่าราคาขายปลีกในประเทศที่ลิตรละ 35 บาท
สำหรับประมาณการฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงปัจจุบัน วันที่ 28 สิงหาคม 2565 ติดลบ 119,764 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นบัญชีน้ำมันติดลบ 78,301 ล้านบาท และบัญชีก๊าซ LPG ติดลบ 41,463 ล้านบาท