สหรัฐฯเชิญจีนคุยการค้ารอบใหม่
รัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯได้เชิญทางการจีนให้เริ่มต้นเจรจากันใหม่เรื่องการค้า ที่ปรึกษาเศรษฐกิจของทำเนียบขาวระบุเมื่อวันที่ 12 ก.ย. โดยทางวอชิงตันเตรียมยกระดับสงครามการค้าด้วยมาตรการภาษีมูลค่า 200,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯกับสินค้าของจีน
Larry Kudlow ประธานที่ปรึกษาเศรษฐกิจของทำเนียบขาวกล่าวกับสื่อ Fox ว่า Steven Mnuchin รมว.กระทรวงการคลังของสหรัฐฯ ได้ส่งคำเชิญไปยังเจ้าหน้าที่อาวุโสของจีน แต่ปฏิเสธที่จะให้รายละเอียดเพิ่มเติม
“ มีการแลกเปลี่ยนความเห็นและข้อมูลที่เราได้รับว่ารัฐบาลจีน ผู้มีอำนาจสูงสุดในรัฐบาลจีนต้องการให้มีการเจรจา ดังนั้น รมว. Mnuchin ซึ่งเป็นหัวหน้าคณะกับจีน จึงได้มีคำเชิญออกมา ”
โดยแหล่งข่าวสองรายที่ใกล้ชิดกับเรื่องนี้ระบุว่า คำเชิญของรมว.คลังสหรัฐฯ ถูกส่งไปที่รมว.คลังของจีน รวมทั้งรองนายกรัฐมนตรีหลิวเหอ ซึ่งเป็นประธานที่ปรึกษาเศรษฐกิจของประธานาธิบดีสีจิ้นผิง เพื่อให้มีการเจรจากันในไม่กี่สัปดาห์นี้
หุ้นในเอเชียพุ่งขึ้นขานรับข่าวนี้ในวันที่ 13 ก.ย. จากความหวังว่าจะมีข้อตกลงที่สามารถหยุดกรณีพิพาทระหว่างสองประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจของโลก โดยเงินหยวนแข็งค่าขึ้นและหุ้นก็พุ่งทะยานขึ้น
ทั้งนี้ รัฐบาลทรัมป์เตรียมพร้อมที่จะขับเคลื่อนมาตรการภาษีมูลค่า 200,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ กับสินค้าจีน ซึ่งจะส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง
กับผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตและสินค้าบริโภค ตั้งแต่กระเป๋าถือไปจนถึงจักรยานและเฟอร์นิเจอร์ ยังไม่มีความชัดเจนว่าการพูดคุยจะทำให้มีการเลื่อนมาตรการภาษีรอบใหม่ออกไปหรือไม่
ก่อนหน้านี้ Kudlow กล่าวกับสื่อนอกทำเนียบขาวว่า การสื่อสารกับทางปักกิ่งมีสัญญาณที่ดีขึ้น และเสริมว่า เขามองว่าเป็นสิ่งที่ดี
“ ผมคิดว่า พวกเราส่วนใหญ่คิดว่า การพูดคุยดีกว่าการไม่ได้พูด และผมคิดว่ารัฐบาลจีนมีเจตนาที่จะพูดคุยกัน ” เขากล่าว
เมื่อถูกถามว่า รัฐบาลทรัมป์จะมีการเจรจาการค้าเพิ่มเติมกับจีนอีกหรือไม่ Kudlow กล่าวว่า “ หากพวกเขามานั่งที่โต๊ะเจรจาเพื่อสร้างผลลัพธ์ที่ดี แน่นอน เป็นเรื่องที่เราร้องขอมานานหลายเดือนแล้ว ” แต่เขาเตือนว่า “ ผมการันตีอะไรไม่ได้เลย ”
ยังไม่มีความชัดเจนเรื่องเวลาและสถานที่ในการเจรจา โดยแหล่งข่าวที่ใกล้ชิดในเรื่องนี้ระบุว่า เจ้าหน้าที่ระดับกลางของสหรัฐฯ และเจ้าหน้าที่ตัวแทนของจีนมีการพบปะพูดคุยกันในวันที่ 22 – 23 ส.ค.ที่ผ่านมาโดยไม่มีการทำข้อตกลงใดๆ
กว่า 60% ของบริษัทสหรัฐฯ ในโพลล์สำรวจระบุว่า มาตรการภาษีของสหรัฐฯ เริ่มส่งผลกระทบกับการดำเนินธุรกิจของพวกเขาแล้ว และมีจำนวนเปอร์เซ็นต์ที่เท่ากันที่ระบุว่า มาตรการภาษีของจีนที่มีต่อสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ กำลังกระทบธุรกิจของพวกเขา.