ทรัมป์ขู่ถอนสหรัฐฯจาก WTO
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯ ขู่จะถอนสหรัฐฯออกจากการเป็นสมาชิกขององค์การการค้าโลก (WTO) โดยเขาอ้างว่าวิธีที่ WTO ปฏิบัติต่อสหรัฐฯนั้นไม่เป็นธรรม
“ถ้าพวกเขาไม่มีการปรับเปลี่ยนระบบภายในองค์กร ผมจะถอนตัวออกจาก WTO” ประธานาธิบดีทรัมป์ระบุในการให้สัมภาษณ์กับสื่อบลูมเบิร์ก
ทั้งนี้ WTO ถูกจัดตั้งขึ้นมาโดยมีจุดประสงค์เพื่อเป็นองค์กรที่กำกับดูแลกฎระเบียบการค้าทั่วโลก และแก้ไขบรรเทาข้อพิพาทระหว่างทุกประเทศ
โดยทรัมป์ระบุว่า WTO มักมีความเห็นขัดแย้งกับสหรัฐฯอยู่บ่อยครั้ง แม้เขาจะยอมรับว่า สหรัฐฯชนะคดีจากคำตัดสินของ WTO ในช่วงนี้
เขาอ้างในการให้สัมภาษณ์กับ Fox News เมื่อต้นปีนี้ว่า WTO ถูกจัดตั้งขึ้นมาเพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับทุกคนยกเว้นสหรัฐฯ โดยเสริมว่า
“เราแพ้คดี เกือบทั้งหมดของคดีใน WTO”
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ชี้ว่า สหรัฐฯชนะคดีเกือบ 90% เมื่อเป็นฝ่ายยื่นคำร้อง และมีแพ้บ้างเล็กน้อยเมื่อเป็นฝ่ายที่ถูกร้องเรียน
ประธานาธิบดีทรัมป์ออกโรงเตือนเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่สหรัฐฯจะถอนตัวออกจาก WTO โดยเน้นให้เห็นถึงความขัดแย้งระหว่างนโยบายการกีดกันทางการค้าของประธานาธิบดี และระบบการค้าเสรีที่ WTO สอดส่องดูแล
สหรัฐฯถูกปิดกั้นจากการเลือกตั้งที่จะมีการเลือกผู้พิพากษาใหม่ให้กับระบบจัดการความขัดแย้งของ WTO และถูกยับยั้งศักยภาพในการตัดสิน
โดย Robert Lighthizer ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ ยังได้กล่าวหา WTO ว่าแทรกแซงอธิปไตยของสหรัฐฯด้วย
โดยทรัมป์ระบุเมื่อวันที่ 30 ส.ค.ว่า ข้อตกลงปี 2534 ในการจัดตั้ง WTO เป็นข้อตกลงการค้าเพียงฝ่ายเดียวที่เลวร้ายที่สุดเท่าที่เคยมีมา
ทั้งนี้ จะมีการบังคับใช้มาตรการภาษีรอบที่ 3 มูลค่า 200,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯที่จะจัดเก็บกับสินค้านำเข้าจากจีนโดยเร็วที่สุดทันที่ที่มีการทำประชาพิจารณ์ในสัปดาห์หน้า อ้างอิงจากสื่อบลูมเบิร์กที่ได้ข่าวจากหลายแหล่งข่าว
จีนตอบโต้กำแพงภาษีสหรัฐฯ ด้วยการขึ้นภาษีกับสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯด้วยมูลค่าที่เท่ากัน และได้ยื่นคำร้องเรื่องภาษีกับ WTO โดยรมว.กระทรวงพาณิชย์ของจีนกล่าวว่า มีความข้องใจว่าสหรัฐฯกระทำการละเมิดกฎของ WTO
โดยคำร้องของจีนเบื้องต้นที่ WTO มีการยื่นในเดือนก.ค.หลังจากทรัมป์มีมาตรการภาษีรอบแรก
ทั้งนี้ WTO เป็นหัวใจของการรักษากฎระเบียบการค้านานาชาติ เป็นองค์กรที่แก้ไขความขัดแย้งทางการค้าระหว่างหลายประเทศ และการเจรจาการค้าเสรีใหม่
อย่างไรก็ตาม ผู้นำสหรัฐฯไม่ชอบการทำข้อตกลงการค้าพหุภาคี เขาเคยระบุว่า เขาชอบข้อตกลงการค้าทวิภาคีมากกว่า
โดยเมื่อวันที่ 27 ส.ค. ทรัมป์ประกาศว่า สหรัฐฯและเม็กซิโกได้ทำข้อตกลงร่วมกันที่จะปรับแก้ไขข้อตกลงการค้าเสรีอเมริกาเหนือ หรือ Nafta เขาระบุว่าเป็นดีลที่ดีจริงๆและมีความเป็นธรรมมากขึ้นสำหรับทั้งสองประเทศ
ทรัมป์ยังระบุว่า วันที่ 31 ส.ค.ถือเป็นกำหนดเส้นตายสำหรับแคนาดาที่จะมาร่วมลงนามในข้อตกลงนี้ และขู่จะจัดเก็บภาษีกับภาคส่วนยานยนต์ของแคนาดา
ก่อนหน้านี้ ทรัมป์ได้ถอนสหรัฐฯออกจากการเป็นสมาชิกข้อตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก หรือ TTP โดยเขาระบุว่า ข้อตกลง TPP ที่ลงนามในสมัยอดีตประธานาธิบดีบารัค โอบามาเป็นดีลที่สร้างหายนะอย่างร้ายแรงกับสหรัฐฯ แต่เขายังเปิดช่องว่า อาจมีการพิจารณาที่จะเข้าร่วมใหม่หากเงื่อนไขดีขึ้นกว่าเดิม.