เทสลายังอยู่ในตลาดหุ้น
บอร์ดบริหารของปริษัทผู้ผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้าเทสลาระบุว่า บริษัทเทสลาจะยังคงอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ต่อไป เป็นการแถลงในช่วงเวลา 2 สัปดาห์หลังจากซีอีโออีลอน มัสก์เคยระบุว่ากำลังพิจารณาพาเทสลาออกจากตลาดหลักทรัพย์
โดยแผนการของมัสก์ถูกยกเลิกไปในการประชุมบอร์ดผู้บริหารของบริษัทในวันที่ 23 ส.ค. อ้างอิงจากแถลงการณ์ของบริษัท
ทั้งนี้ นับตั้งแต่มัสก์ประกาศแผนการของเขา ราคาหุ้นของบริษัทเทสลาดิ่งฮวบลงไปถึง 20%
มัสก์กล่าวว่า เขาได้ชี้แจงกับบอร์ดบริหารของเทสลาแล้ว โดยเขาเชื่อว่าเป็นหนทางที่ดีกว่าสำหรับเทสลาที่จะยังคงอยู่ในตลาดหุ้นต่อไป และบอร์ดบริหารชี้ว่าพวกเขาเห็นด้วย
โดยก่อนหน้านี้ มัสก์ระบุในแถลงการณ์บนบล็อกของเทสลาว่า เขาได้พูดคุยกับบรรดาผู้ถือหุ้นและธนาคารรายใหญ่ในการพิจารณากระบวนการออกจากตลาดหุ้นของเทสลา เขายังได้กล่าวว่า คงเป็นการดำเนินการที่ต้องใช้เวลานานและไม่เป็นไปตามที่คาดหมายตั้งแต่แรก และปฏิกิริยาจากบรรดาผู้ถือหุ้นคือ “ โปรดอย่าทำเช่นนี้ ”
เมื่อช่วงต้นเดือนส.ค. อีลอน มัสก์ช็อกผู้ถือหุ้นด้วยการทวีตบนทวิตเตอร์ว่า เขาได้รับการระดมทุนจากกองทุนที่มั่นคงเพื่อนำพาเทสลาจากสถานะบริษัทมหาชนในตลาดหุ้นไปเป็นบริษัทเอกชน ด้วยมูลค่า 72,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ แต่ต่อมา ก็มีการเปิดเผยว่าเขายังไม่สามารถปิดดีลกับกองทุนความมั่งคั่งของซาอุดิอาระเบียได้
หุ้นของเทสลาพุ่งทะยานขึ้นอย่างรวดเร็วในวันที่ 7 ส.ค.หลังทวีตของมัสก์ แต่ร่วงลงอย่างต่อเนื่องหลังจากนั้น สถานการณ์ช่วงนั้นนับเป็นข่าวดีสำหรับผู้ซื้อระยะสั้น ซึ่งเก็งได้ว่า ราคาหุ้นของเทสลาจะต้องดิ่งลง
เป็นที่รู้กันว่า มัสก์ไม่เป็นที่ชื่นชอบของผู้ซื้อระยะสั้น เขามักถูกเรียกว่า คนงี่เง่าที่หาเรื่องใส่ตัว แต่เขาโต้แย้งว่า การพาเทสลาออกจากตลาดหลักทรัพย์จะเหมือนมีเกราะปกป้องคุ้มครองบริษัทจากการถูกโจมตี
หุ้นของเทสลายังคงดิ่งเหวหลังมัสก์ให้สัมภาษณ์ทั้งน้ำตากับสื่อนิวยอร์กไทม์ โดยในการให้สัมภาษณ์ เขาได้เปิดเผยว่า เขาเคยโหมทำงานหนักมากถึง 120 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ และต้องพึ่งยาระงับประสาท
นักลงทุนมองว่า เขาไม่ได้ให้ความเชื่อมั่นกับนักลงทุนว่าเขามีความเฉียบคมและว่องไวมากพอที่จะแก้ไขสถานการณ์ทางธุรกิจของบริษัทและเขายอมรับในการให้สัมภาษณ์ว่า เขาไม่มีความชัดเจนในการทวีตเมื่อวันที่ 7 ส.ค.ที่ทำให้นักลงทุนกังวลมาก
เทสลาประสบกับแรงกดดันทางการเงินอย่างหนักในปีนี้ ในระหว่างการทำงานเพื่อผลิตรถรุ่น Model 3 ให้ทันตามความต้องการของตลาด
โดยเมื่อวันที่ 1 ส.ค. บริษัทได้รายงานผลประกอบการที่ขาดทุนอีกครั้ง มัสก์คาดการณ์ว่าบริษัทจะมีกำไรในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2561 และทุกไตรมาสที่จะมาถึง แต่ยังมีความสงสัยข้องใจว่าเทสลาคงจะต้องเลื่อนการรายงานกำไรจากผลประกอบการออกไปอีก
ทั้งนี้ บริษัทเคยทำให้นักลงทุนเซอร์ไพรส์เมื่อมีกำไรต่อไตรมาสเป็นครั้งแรกในปี 2556 โดยได้อานิสงส์จากยอดขายรถ Model S ซึ่งถือเป็นตัวเลขกำไรครั้งแรกในประวัติศ่าสตร์ของบริษัท.