โตโยต้ากำไรพุ่งเกินคาด
โตโยต้า – บริษัทผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของญี่ปุ่นโพสต์กำไรสุทธิประจำไตรมาสที่พุ่งขึ้นถึง 7.2% สูงกว่าที่คาดการณ์และทำให้นักวิเคราะห์ต้องประหลาดใจ
รายได้สุทธิของบริษัทอยู่ที่ 657,000 ล้านเยน หรือราว 199,950 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดิมคือ 613,000 ล้านเยนในไตรมาสเดียวกันของปีก่อน นักวิเคราะห์หลายคนระบุว่า ก่อนหน้านี้ พวกเขาคาดการณ์ว่ารายได้ของโตโยต้าจะไม่เติบโตมากนัก
แต่ยอดขายที่แข็งแกร่งขึ้นในเอเชียและการลดค่าใช้จ่ายลงในญี่ปุ่น ช่วยหนุนให้ตัวเลขรายได้ของบริษัทเติบโตขึ้น โดยโตโยต้าระบุว่า บริษัทขายรถยนต์ได้มากถึง 2,236,131 ล้านคันในไตรมาสนี้ เพิ่มขึ้นจากเดิมถึง 21,020 คัน
“โตโยต้ามียอดขายที่ดีในกลุ่มประเทศอาเซียน (เอเชียตะวันออกเฉียงใต้)” Janet Lewis ผอ.ฝ่ายอุตสาหกรรมและการคมนาคมในเอเชียประจำ Macquarie Group กล่าวกับสื่อ BBC
“โดยเฉพาะในประเทศไทย ซึ่งเป็นปีที่แข็งแกร่งของโตโยต้า และตัวเลขที่ดีขนาดนี้ เป็นเพราะอัตรากำไรในอาเซียนยังคงดีมาก” เธอกล่าว
ทั้งนี้ บริษัทระบุว่า รายได้จากผลประกอบการเพิ่มขึ้นจาก 574,200 ล้านเยนมาอยู่ที่ 682,600 ล้านเยน เติบโตขึ้นถึง 18.87% แต่โตโยต้ายังคงตัวเลขกำไรสุทธิตลอดทั้งปีอยู่ที่ 2.12 ล้านล้านเยน เนื่องจากมีความกังวลเรื่องสงครามการค้า
ก่อนหน้านี้ โตโยต้าระบุว่า บริษัทคาดการณ์ว่าจะขายรถยนต์ได้ถึง 8.95 ล้านคันตลอดทั้งปีถึงเดือนมี.ค. 2562 อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 3 ส.ค. บริษัทได้ปรับตัวเลขลงเหลือ 8.90 ล้านคัน หลังจากมีการพิจารณาแนวโน้มยอดขายทั่วโลกล่าสุด
นักวิเคราะห์เตือนว่า มาตรการภาษี 25% กับรถยนต์นำเข้า และชิ้นส่วนรถยนต์จะส่งผลกระทบกับโตโยต้าในอนาคตกับตลาดสหรัฐฯ ซึ่งเป็นตลาดรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดของบริษัท แต่ Lewis ระบุว่า จนถึงตอนนี้ ผลกระทบจากมาตรการภาษีของสหรัฐฯ แทบไม่มีเลย
“ในช่วงเวลานี้ มาตรการภาษียังส่งผลกระทบน้อยมากกับอะลูมิเนียมและเหล็ก และทำให้มีการขึ้นราคาบางส่วนในสหรัฐฯ ภาษีส่งผลกระทบน้อยมาก แต่ส่งผลทำให้ราคาวัตถุดิบสูงขึ้นบางส่วนในสหรัฐฯ อย่างเรซิน”
อย่างไรก็ตาม Lewis เตือนว่าการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญกับข้อตกลงการค้าเสรีอเมริกาเหนือ (Nafta) อาจทำความเสียหายกับบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ได้มากกว่ามาตรการภาษี
“โตโยต้าและบริษัทผู้ผลิตรถยนต์รายอื่นมีตลาดที่แข็งแกร่งมากในอเมริกาเหนือ ซึ่งแน่นอนว่ารวมถึงแคนาดาและเม็กซิโกด้วย และบริษัทผู้ผลิตรถยนต์อาจได้รับความเสียหายจากความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่กับ Nafta” เธอระบุ
โตโยต้าอาจได้รับผลกระทบ หากภาษีมีผลบังคับใข้กับญี่ปุ่นเท่านั้น “เพราะมีการส่งออกเป็นจำนวนมากจากญี่ปุ่น แต่ความเปลี่ยนแปลงที่มีกับ Nafta จะทำความเสียหายยิ่งกว่าให้กับทางโตโยต้า”
ขณะที่ในจีน ซึ่งโตโยต้าตามหลังฮอนด้าและนิสสันอยู่ในช่วง 2 – 3 ปีล่าสุด Lewis ระบุว่า โตโยต้าทำได้ดีมาก
“คัมรีใหม่และการขยายกำลังการผลิตในตลาดจีนทำให้มีบริษัทการเติบโตเป็นตัวเลขสองหลักในปีนี้” เธอกล่าว
ในเดือนพ.ค. โตโยต้าโพสต์กำไรสุทธิตลอดทั้งปีที่สูงเป็นประวัติการณ์ถึง 2.5 ล้านล้านเยน เติบโตขึ้นถึง 36.2% เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยยอดขายรถยนต์ตลอดปีจนถึงเดือนมี.ค.ปี 2561 นี้อยู่ที่ 8,964,394 คัน.