ยอดขายไอโฟนหนุนรายได้แอปเปิล
แอปเปิลขายไอโฟนได้น้อยกว่าที่คาด แต่ราคาขายต่อหน่วยที่สูงขึ้นทำให้ยักษ์ใหญ่ไฮเทคยังคงทำรายได้สูงกว่าที่ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทคาดการณ์ไว้
โดยบริษัทรายงานยอดขายไอโฟน 41.3 ล้านเครื่องในไตรมาสสิ้นสุดเดือนมิ.ย. เติบโตเพิ่มขึ้นเพียง 1% เมื่อเทียบกับปี 2560 แต่ราคาไอโฟนเฉลี่ยสูงถึง 724 ดอลลาร์สหรัฐฯ สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้คือ 694 ดอลลาร์สหรัฐฯ
บริษัทระบุว่า ราคาขายไอโฟน X ที่ 999 ดอลลาร์สหรัฐฯ ที่เปิดตัวเมื่อปี 2560 ยังคงเป็นไอโฟนรุ่นที่ได้รับความนิยมมากที่สุดประจำไตรมาส และหนุนให้ราคาขายสูงขึ้น
รายได้ที่เติบโตอย่างแข็งแกร่งถึง 31% ของแอปเปิลมาจากบริการทางธุรกิจ ซึ่งรวมถึงแอปสโตร์ แอปเปิลมิวสิก และแอปเปิลเพย์ ที่เป็นแรงขับเคลื่อนที่หนุนรายได้ในการดำเนินการ โดยคาดการณ์ว่าบริการทางธุรกิจจะมีรายได้ตามคาดการณ์คือมากกว่า 14,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯภายในปี 2563 อ้างอิงจากถ้อยแถลงของทิม คุก ประธานกรรมการบริหารแอปเปิล
“ เรามีความสุขมากกับสิ่งที่เกิดขึ้น ” เขากล่าว
รายได้โดยรวมของแอปเปิลเพิ่มขึ้นถึง 17% เมื่อเทียบกับปีก่อนเป็นไตรมาสที่ทำรายได้สูงเป็นประวัติการณ์ถึง 53,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยทุกภูมิภาคยกเว้นญี่ปุ่นมีการเติบโตเป็นตัวเลขสองหลัก
โดยกำไรของบริษัทเพิ่มขึ้นเป็น 11,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มทะยานขึ้นถึง 32% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปี 2560 ทำให้หุ้นของแอปเปิลพุ่งขึ้นมากกว่า 3% หลังการซื้อขายไม่กี่ชั่วโมงในนิวยอร์ก
ตัวเลขทั้งหมดหนุนให้แอปเปิล ซึ่งเป็นบริษัทที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลกไปแล้ว ขยับเข้าใกล้ไปอีกขั้นที่จะมีมูลค่าในตลาดหุ้นสูงถึง 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
ตัวเลขรายได้ของแอปเปิลตรงข้ามกับผู้ขายสมาร์ทโฟนรายใหญ่ที่สุดอย่างซัมซุง ที่ทำให้นักลงทุนผิดหวังจากยอดขายสมาร์ทโฟนระดับไฮเอนด์ Galaxy S9 ที่ต่ำเกินคาดการณ์
อย่างไรก็ตาม แอปเปิลกำลังเผชิญกับการแข่งขันที่เพิ่มขึ้นในตลาดสมาร์ทโฟนทั่วโลก ซึ่งมีการเติบโตลดลง 0.3% ในปีที่แล้ว อ้างอิงจากบริษัทวิจัยนานาชาติ Data Corp
บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของจีนอย่างหัวเหว่ย ซึ่งรายงานการเติบโต 15% ในช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้ สามารถแซงหน้าแอปเปิลขึ้นมาเป็นบริษัทผู้ขายสมาร์ทโฟนรายใหญ่ที่สุดอันดับ 2 ของโลกในไตรมาสนี้ อ้างอิงจากบริษัทวิจัยตลาด Canalys และ IDC ทำให้แอปเปิลหล่นลงมาเป็นอันดับ 3 ตามหลังซัมซุงและหัวเหว่ย
ผู้บริหารระบุว่า พวกเขามั่นใจในสถานะของแอปเปิล โดยบริษัทคาดการณ์รายได้สูงประมาณ 60,000 – 62,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในไตรมาสเดือนก.ค. – ก.ย. ซึ่งเป็นสัญญาณการเติบโตเป็นตัวเลขสองหลักต่อเนื่องกันเป็นไตรมาสที่ 5
ซีอีโอทิม คุก ลดความกังวลเรื่องความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีนที่อาจส่งผลกระทบกับธุรกิจของแอปเปิล โดยเขาระบุว่า จนถึงตอนนี้บริษัทยังไม่ได้รับผลกระทบจากมาตรการภาษี และบริษัทกำลังทบทวนถึงผลลัพธ์จากคำขู่ของผู้นำสหรัฐฯ ที่จะปรับขึ้นภาษีกับสินค้านำเข้าจากจีนอีก 200,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ด้วย
“ ความเห็นของเราเกี่ยวกับมาตรการภาษีคือ การผลักภาระภาษีไปให้กับผู้บริโภค และทำให้การเติบโตทางเศรษฐกิจถอยหลัง และบางครั้งอาจเป็นความเสี่ยงอย่างชัดเจนที่จะทำให้เกิดผลลัพธ์ที่ไม่ได้ตั้งใจ ” เขาระบุ