อเมซอนกำไรพุ่ง
อเมซอน บริษัทยักษ์ใหญ่อีคอมเมิร์ซรายงานกำไรประจำไตรมาสที่สูงทำสถิติจากยอดขายออนไลน์ที่เพิ่มขึ้นและดีมานด์บริการคลาวด์ของบริษัทที่เพิ่มขึ้น
โดยกำไรของอเมซอนสูงเป็นประวัติการณ์ถึง 2,530 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 84,502 ล้านบาท ในไตรมาสสิ้นสุดเดือนมิ.ย. เติบโตเพิ่มขึ้นประมาณ 12 เท่าเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน
ยอดขายเพิ่มขึ้น 39% เป็น 52,890 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 1.76 ล้านล้านบาท น้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้เล็กน้อยทำให้หุ้นของอเมซอนพุ่งขึ้นมากกว่า 3% หลังปิดตลาดซื้อขาย
“ นี่เป็นไตรมาสที่แข็งแกร่งมาก” Brian Olsavsky ประธานบริหารการเงินระบุ “ ผมเชื่อว่าเราจะยังคงแข็งแกร่งต่อไปในพื้นที่ธุรกิจที่ทำกำไรของเรา”
ขณะที่ในส่วนธุรกิจบริการคลาวด์ที่มีกำไรสูง คือ Amazon Web Services รายได้อยู่ที่ 6,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้นเกือบ 50% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน
นอกจากนี้ อเมซอนยังเริ่มที่จะดึงดูดเม็ดเงินจากโฆษณาเพิ่มขึ้นด้วย โดยรายได้จากส่วนอื่นของบริษัท ซึ่งรวมถึงโฆษณา เพิ่มขึ้นเกือบสองเท่าอยู่ที่ประมาณ 2,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
ยอดค้าปลีกในอเมริกาเหนือก็สูงเช่นกัน โดยยอดขายเพิ่มขึ้นเกือบ 44% ไปอยู่ที่เกือบ 32,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 1.07 ล้านล้านบาท
การรับสมัครงานชะลอตัวลงในไตรมาสนี้ โดยอเมซอนเริ่มเก็บเกี่ยวผลกำไรจากการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานไปก่อนหน้านี้ ทำให้การใช้จ่ายลดน้อยลง Olsavsky ระบุ
Daniel Ives ประธานกรรมการฝ่ายกลยุทธ์ที่ GBH Insights ระบุว่า ผลกำไรของอเมซอนดูจะเติบโตเร็วขึ้นกว่าที่เคยคาดการณ์ ซึ่งดูจะทำให้นักลงทุนพอใจ และทำให้บริษัทมีชื่อเสียงที่จะดึงดูดนักลงทุนในระยะยาวให้เข้ามาลงทุนในบริษัทอีกครั้ง
จากการคาดการณ์ของบริษัทวิจัย eMarketer ยอดขายออนไลน์ของอเมซอนคิดเป็นประมาณครึ่งหนึ่งของยอดขายออนไลน์ทั้งหมดในสหรัฐฯ ในปี 2561 นี้
บริษัทบอกกับนักลงทุนว่า บริษัทคาดการณ์ว่ายอดขายไตรมาส 3 จะอยู่ที่ประมาณ 54,000 – 57,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เติบโตขึ้นจาก 23% เป็น 31%
ปัจจุบัน อเมซอนมีการจ้างงานถึง 575,000 อัตรา เป็นจำนวนมากเกือบเท่าจำนวนประชากรของประเทศลักเซมเบิร์ก
บริษัทก่อตั้งขึ้นในปี 2537 และกำลังจะกลายเป็นบริษัทแรกในโลกที่มีมูลค่าในตลาดถึง 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 33.4 ล้านล้านบาท
เจฟ เบซอส ซีอีโอและผู้ก่อตั้งอเมซอนวัย 54 ปี ซึ่งกลายเป็นมหาเศรษฐีอันดับ 1 ของโลก ด้วยทรัพย์สินมูลค่าประมาณ 150,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 5.01 ล้านล้านบาท ต้องเผชิญกับคำถามเกี่ยวกับความใจบุญสุนทานของเขาที่ดูจะมีอย่างจำกัด ต่างกับมหาเศรษฐีคนอื่นอย่างบิล เกตส์ หรือวอร์เรน บัฟเฟตต์ หรือแม้แต่มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ที่บริจาคเงินให้กับการกุศลจำนวนมาก
ในปีที่แล้ว เบซอสระบุว่า เขาจะทำการกุศลที่แตกต่างจากการทำธุรกิจ โดยมุ่งเน้นที่ผลกระทบที่เกิดขึ้นทันที มากกว่าที่จะส่งผลในระยะยาว เขาเพิ่งบอกใบ้ว่าเขาจะเพิ่มงบในการบริจาค ซึ่งคาดว่าจะเป็นช่วงฤดูร้อนปีนี้.