สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 12 ก.ค. 65
ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง
ช่วงวันที่ 12-14 ก.ค. 65 ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้น โดยมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้
ปริมาณฝนตกใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา มีฝนตกหนักบริเวณ จ.ตราด (163 มม.) จ.ชัยภูมิ (128 มม.) และ จ.ชุมพร (111 มม.)
แม่น้ำสายหลัก น้ำน้อยถึงปกติ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ส่วนแม่น้ำโขง มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น
ปริมาณน้ำ แหล่งน้ำทุกขนาด 43,773 ล้าน ลบ.ม. (53%) แหล่งน้ำขนาดใหญ่ 38,118 ล้าน ลบ.ม. (53%) เฝ้าระวังน้ำน้อย บริเวณภาคเหนือ (3 แห่ง)
นายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เป็นประธานการประชุมคณะทำงานด้านอำนวยการ กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ครั้งที่ 2/2565 ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องภายใต้ กอนช. เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำและการคาดการณ์ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำ ซึ่งในช่วงเดือน ส.ค.–ก.ย. พื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันตก และภาคใต้ฝั่งตะวันตกปริมาณฝนเพิ่มมากขึ้น ก่อนที่ฝนจะเริ่มลดลงในช่วงเดือน ต.ค.–ธ.ค. โดยที่ประชุมได้ร่วมกันพิจารณา ดังนี้
ทบทวนเกณฑ์การยกระดับภาวะวิกฤติน้ำภายใต้พระราชบัญญัติทรัพยากรน้ำ พ.ศ. 2561 ก่อนเสนอ กนช. ให้ความเห็นชอบ และนำมาใช้เป็นหลักเกณฑ์ประกอบการพิจารณายกระดับสถานการณ์วิกฤติน้ำ
แผนการระบายน้ำลุ่มน้ำเจ้าพระยา
ความก้าวหน้าการสำรวจคันกั้นน้ำ พนัง ทำนบดิน ตาม 13 มาตรการรับมือฤดูฝนปี 2565 ปัจจุบันมีความก้าวหน้าประมาณ 50% โดยที่ประชุมได้เน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดดำเนินการตรวจสอบให้มีความมั่นคงแข็งแรงและพร้อมใช้งานในฤดูน้ำหลากนี้
ทั้งนี้ที่ประชุมเน้นย้ำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำข้อมูลการวิเคราะห์คาดการณ์สถานการณ์ฝนใช้ในการวางแผนบริหารจัดการน้ำให้สอดคล้องกับสถานการณ์