เน็ตฟลิกซ์หุ้นร่วงหลังยอดสมาชิกโตน้อยลง
หุ้นของเน็ตฟลิกซ์ดิ่งร่วงลงมามากกว่า 14% หลังการซื้อขายในวันที่ 16 ม.ค.หลังบริษัทรายงานยอดการเติบโตของสมาชิกที่น่าผิดหวัง
โดยเน็ตฟลิกซ์ระบุว่ายอดสมัครสมาชิกเพิ่มขึ้น 5.2 ล้านรายในไตรมาสที่สิ้นสุดเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นตัวเลขเดียวกันกับการเติบโตในไตรมาส 2 ของปี 2560 ก่อนหน้านี้บริษัทเคยคาดการณ์ว่า ตัวเลขสมัครสมาชิกในไตรมาสนี้จะเพิ่มขึ้นถึง 6.2 ล้านราย
ราคาหุ้นของบริษัทลดลงหลังเคยประสบความสำเร็จ หุ้นพุ่งขึ้นไปเกือบ 2 เท่าในปีนี้
หุ้นของเน็ตฟลิกซ์มีราคาอยู่ที่ 400 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อหุ้น หลังจบการซื้อขายของวันที่ 16 ก.ค. แต่ร่วงลง 14 % หลังปิดตลาด เนื่องจากนักลงทุนวิเคราะห์ผลประกอบการประจำไตรมาสของบริษัท
นักลงทุนมีความกังวลเกี่ยวกับศักยภาพในการเติบโตของเน็ตฟลิกซ์ในสภาวะที่ต้องเผชิญกับการแข่งขันสูงจากบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่อย่าง แอปเปิล ยูทูบและอเมซอน รวมถึงสื่อแบบดั้งเดิม ซึ่งเริ่มลงทุนเพิ่มขึ้นในธุรกิจสตรีมมิงออนไลน์ โดยตัวอย่างที่เห็นชัดคือบริษัทดิสนีย์ ที่มีแผนจะเปิดตัวบริการสตรีมมิงของตัวเอง และหยุดให้ลิขสิทธิ์กับทางเน็ตฟลิกซ์
เน็ตฟลิกซ์ยอมรับความท้าทายนี้ แต่ระบุว่าจะปรับปรุงกลยุทธ์ในการดำเนินการต่อไป
“ เราเชื่อว่า ความพึงพอใจของผู้บริโภคในคอนเทนต์ที่ดีมันกว้างและมีพื้นที่สำหรับผู้ให้บริการอีกจำนวนมากที่จะนำเสนอเนื้อหาที่น่าดึงดูดใจ ”
ในจดหมายถึงนักลงทุน เน็ตฟลิกซ์ระบุว่าไตรมาสนี้เป็นไตรมาสที่แข็งแกร่ง แต่ไม่ใช่ไตรมาสที่สามารถคว้าดาวมาได้ โดยจนถึงตอนนี้บริษัทมียอดสมาชิกทั่วโลกประมาณ 130 ล้านราย บริษัทสามารถเพิ่มตัวเลขสมาชิกได้เพียง 670,000 รายในสหรัฐฯ สำหรับไตรมาสนี้ ลดลงจากที่เคยทำได้มากกว่า 1 ล้านรายในไตรมาส 2 ของปี 2560
ขณะที่บริษัทสามารถเพิ่มยอดสมาชิกทั่วโลกได้ 4.5 ล้านราย ลดลงจาก 2 ไตรมาสล่าสุด แต่ยังคงเติบโตขึ้นถึง 8% เมื่อเทียบกับปีก่อน
อย่างไรก็ตาม บริษัทระบุว่าสถานะการเงินของบริษัทยังคงแข็งแกร่ง โดยบริษัทรายงานรายได้ประจำไตรมาสที่สูงถึง 3,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 130,299 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 40% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ของปี 2560
ผลกำไรโดยรวมอยู่ที่ 384.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 12,829 ล้านบาท คิดเป็นเกือบ 6 เท่าของตัวเลขผลกำไรในช่วงเวลาเดียวกันของปี 2560
ทั้งนี้ จากเอกสารถึงผู้ลงทุน เน็ตฟลิกซ์ชี้ให้เห็นถึงความสำเร็จของบริษัทก่อนหน้าการประกาศรางวัลเอ็มมี ซึ่งเป็นครั้งแรก ที่เน็ตฟลิกซ์ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลมากกว่าคู่แข่งอย่าง HBO ถือว่าเน็ตฟลิกซ์ได้รับการยอมรับในศักยภาพของการผลิตคอนเทนต์ที่เป็นแบบฉบับของเน็ตฟลิกซ์เอง
แต่เรื่องนี้ดูเหมือนจะไร้ประโยชน์สำหรับเน็ตฟลิกซ์ หากจำนวนรางวัลที่ได้สวนทางกับผลประกอบการทางธุรกิจ ตัวเลขการเติบโตเป็นมาตรวัดเดียวที่จำเป็นสำหรับนักลงทุน และนี่ดูจะเป็นการผิดพลาดครั้งใหญ่ ที่สะท้อนให้เห็นชัดเจนในราคาหุ้นที่ร่วงลงเมื่อวันที่ 16 ก.ค.