“อาเบะ”ลงพื้นที่เยี่ยมผู้ประสบภัย
เมื่อวันที่ 13 ก.ค.นายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะแห่งญี่ปุ่นเดินทางไปเยี่ยมผู้ประสบภัยจากฝนที่ตกหนักและทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 204 รายจากน้ำท่วมฉับพลันและดินถล่ม และรัฐบาลให้คำมั่นที่จะช่วยเหลือมากขึ้น
ปริมาณน้ำฝนที่มากเป็นประวัติการณ์ทางภูมิภาคตะวันตกของญี่ปุ่นยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เจ้าหน้าที่กู้ภัยขุดทะลุซากอาคารเพื่อค้นหาประชาชนนับสิบรายที่ยังคงสูญหาย
โยชิฮิเดะ ซูกะ โฆษกของคณะรัฐมนตรีระบุว่า ยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 204 ราย และมีผู้สูญหาย 28 ราย เจ้าหน้าที่กู้ภัยประมาณ 73,000 นาย รวมทั้งทหารและตำรวจกำลังทำงานประสานกันอย่างสุดความสามารถ โดยมุ่งช่วยชีวิตผู้คนเป็นลำดับแรก
นายกฯอาเบะ ซึ่งก่อนหน้านี้ยกเลิกทริปเดินทางไปต่างประเทศ ได้เดินทางเป็นครั้งที่ 2 ไปยังพื้นที่ประสบภัย รายงานข่าวทางโทรทัศน์แสดงให้เห็นภาพผู้นำญี่ปุ่นอยู่ในเซโย จังหวัดเอฮิเมะ ซึ่งเขาได้ไปเยือนบ้านหลายหลังที่ถูกทำลายจากภัยพิบัติครั้งนี้ และมีการพูดคุยกับประชาชนที่พยายามจะทำความสะอาดบ้านเรือนของตัวเอง
ก่อนหน้านี้ นายกฯอาเบะได้พบกับเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลที่ปฏิบัติงานในระหว่างภัยพิบัติและรับปากที่จะให้งบประมาณช่วยเหลือเพิ่มขึ้น รัฐบาลยังได้ระบุว่า จะให้งบช่วยเหลือประมาณ 18 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 601 ล้านบาท จากเงินสำรองในงบประมาณของปีนี้ และอาเบะยังชี้แจงว่า เงินภาษี 312 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 10,427 ล้านบาท จะมีการเบิกจ่ายเร็วขึ้นให้กับรัฐบาลท้องถิ่นในพื้นที่ประสบภัย
“ ผมอยากให้รัฐบาลท้องถิ่นในพื้นที่ประสบภัยทำทุกอย่างที่สามารถทำได้ในการช่วยเหลือฉุกเฉินและฟื้นฟู โดยไม่ต้องลังเลใจที่จะใช้จ่าย” ผู้นำญี่ปุ่นกล่าว
ยังมีการคำนวณค่าใช้จ่ายของความเสียหายที่เกิดขึ้น แต่กระทรวงเกษตรระบุว่า ประเมินว่ามีความเสียหายอย่างน้อย 207 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 6,917 ล้านบาท โดยตัวเลขดูจะเพิ่มขึ้น เนื่องจากยังมีการทำความสะอาดอย่างต่อเนื่องและขนาดความเสียหายมีความชัดเจน
เคน ไซโตะ รมว.เกษตรระบุว่า ราคาผักปรับเพิ่มขึ้น 10% -30% และกระทรวงจะจับตาอย่างใกล้ชิดเพื่อเฝ้าระวังเรื่องการขึ้นราคา
เมื่อวันที่ 13 ก.ค. เจ้าหน้าที่เทศบาลของญี่ปุ่นระดมกำลังทำงานอย่างหนักเพื่อแก้ไขให้ในพื้นที่มีน้ำประปาใช้โดยเร็ว
ชุมชนที่ถูกน้ำท่วมในสัปดาห์ที่แล้ว ถูกซ้ำเติมด้วยอากาศร้อนในสัปดาห์นี้ อุณหภูมิสูงขึ้นกว่า 30 องศาเซลเซียส และมีขยะกองสูงจากโคลนที่พัดพามาอยู่บนถนน
“ เราอยากมีน้ำประปาใช้อีก” ฮิโรชิ โอกะ วัย 40 ปี ผู้อาศัยในเขตมาบิที่กำลังช่วยเจ้าหน้าที่ทำความสะอาดเมืองคุราชิกิ ในจังหวัดโอคายามะซึ่งเป็นหนึ่งในพื้นที่ซึ่งได้รับผลกระทบมากที่สุด
“ ตอนนี้ที่เรามีคือน้ำที่ไหลอ่อยๆ เรากดชักโครก หรือล้างมือยังไม่ได้เลย” เขาเสริม
ทั้งนี้ มากกว่า 200,000 ครัวเรือนในคุราชิกิยังคงไม่มีน้ำประปาใช้มานานถึงสัปดาห์แล้ว
เจ้าหน้าที่ของเมืองกล่าวกับสื่อรอยเตอร์ว่า มีการซ่อมแซมเพื่อให้ระบบน้ำประปาในเขตนี้กลับมาใช้งานได้บางส่วนแล้ว แต่ยังไม่สามารถใช้งานได้ตามปกติ เนื่องจากวิศวกรยังคงค้นหาตำแหน่งที่ท่อประปาแตกอยู่.