ข่าวฉาวไม่กระทบโฆษณาบนเฟซบุ๊ก
ข่าวอื้อฉาวเรื่องข้อมูลส่วนตัวผู้ใช้งานเฟซบุ๊กรั่วถึง 87 ล้านบัญชีในช่วงเวลาที่ผ่านมาส่งผลกระทบเพียงเล็กน้อยกับจำนวนลูกค้าผู้ลงโฆษณาในเฟซบุ๊ก อ้างอิงจากความเห็นของบริษัทโฆษณายักษ์ใหญ่
Steve King ซีอีโอของ Publicis Media กล่าวกับสื่อ CNBC ว่า เฟซบุ๊กถูกสั่นคลอนความเชื่อมั่นจากผู้ใช้งาน เนื่องจากมีข่าวว่า บริษัทที่ปรึกษาการเมือง Cambridge Analytica ใช้ข้อมูลผู้ใช้งานเฟซบุ๊กนับล้านในการปล่อยข่าวลวงและนำมาเป็นกลยุทธ์สกปรกทางการเมืองอื่นๆ
แต่ความเชื่อมั่นในบรรดาลูกค้าผู้ลงโฆษณาในเฟซบุ๊กกลับยังคงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง
“ แต่ละประเด็นมีปฏิกริยาที่แตกต่างกัน ประเด็นความปลอดภัยของแบรนด์ ไม่มีลูกค้าของเรารายใดหยุดลงโฆษณาบนเฟซบุ๊กเพราะข่าวฉาวเรื่องบริษัท Cambridge Analytica เลย”
Publicis Groupe ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทโฆษณาที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 3 ของโลก และเป็นบริษัทแม่ของ Publicis Media ต้องเผชิญกับอุปสรรคครั้งใหญ่ในช่วงหลายปีนี้ เนื่องจากงบโฆษณาหดตัวลงและมีการแข่งขันที่ดุเดือดจากเฟซบุ๊ก และกูเกิล ซึ่งมีส่วนแบ่งในตลาดโฆษณาดิจิทัลของสหรัฐฯ เกินครึ่ง อ้างอิงจากข้อมูลของ eMarketer
โดยแพลตฟอร์มทั้งสองได้ผ่านการพิสูจน์ว่ามีมูลค่าสำหรับลูกค้าที่ต้องการให้โฆษณาแพร่หลายมากที่สุด และศักยภาพในการกำหนดเป้าหมายของโฆษณาที่อยู่บนพื้นฐานข้อมูลผู้บริโภคที่มีมากมายจนสูงเท่าภูเขา เขาเสริมว่า เฟซบุ๊กยังคงเป็นแพลตฟอร์มสำหรับโฆษณาที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 2 ที่ทางบริษัททำงานด้วย
อย่างไรก็ตาม นักโฆษณาชั้นนำผู้นี้แสดงความผิดหวังเกี่ยวกับมาตรวัดที่ขาดความโปร่งใสที่จะใช้ในการวัดประสิทธิภาพของแคมเปญโฆษณาบนดิจิทัลแพลตฟอร์มอย่างเฟซบุ๊กและกูเกิล
ในปีนี้ บริษัท Procter & Gamble ซึ่งเป็นลูกค้าที่ลงโฆษณารายใหญ่ที่สุดของโลก ระบุว่าได้ตัดงบประมาณมากกว่า 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 6,406 ล้านบาท ในการใช้จ่ายด้านโฆษณาดิจิทัลในปีที่แล้ว หลังจากมีข้อมูลบ่งชี้ว่า โฆษณาเหล่านั้นไม่มีประสิทธิภาพ
เฟซบู๊กประกาศความเปลี่ยนแปลงของมาตรวัตรที่ใช้ง่ายและชัดเจนเพื่อเป็นการดึงดูดผู้ลงโฆษณาในเดือนก.พ.ที่ผ่านมา แต่ยังพบความผิดพลาดในการคำนวณอยู่
King กล่าวว่า ความเชื่อมั่นที่ลดลงของผู้ใช้งานที่มีกับแพลตฟอร์ม และความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับการถูกนำข้อมูลส่วนตัวไปใช้ กลายเป็นความกังวลที่เพิ่มขึ้น
“ ถ้าเราเห็นจำนวนคนลบเฟซบุ๊ก และมันกลายเป็นเทรนด์ในไม่กี่เดือนหน้านี้ จึงจะส่งผลกระทบในการรับรู้และการลงทุนจากลูกค้าของเรา” เขากล่าว
ไม่กี่ปีที่ผ่านมา Publicis Groupe ได้พยายามที่จะเสริมสร้างศักยภาพของบริษัทเองในการปรับเปลี่ยนพื้นที่โฆษณาดิจิทัล
โดยในปี 2559 บริษัทได้เข้าซื้อกิจการของบริษัทดิจิทัล Sapient เพื่อส่งเสริมในด้านการตลาด เทคโนโลยี และความสามารถในการเป็นที่ปรึกษา ชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของนักพัฒนานับพันคนที่บริษัทจ้างในอินเดีย ในปีที่แล้ว บริษัทได้พัฒนา Publicis Spine แพลตฟอร์มที่รวมเทคโนโลยีและข้อมูลของบริษัทเข้าด้วยกันเพื่อขายลูกค้าให้ตรงเป้าหมายในการโฆษณา.