อุตตม ยกระดับแก้หนี้เกษตรกร เป็นวาระแห่งชาติ พร้อมชูภาคอีสานเป็นเขตเศรษฐกิจใหม่
อุตตมโพสต์หลังลงพื้นที่อีสาน พบปัญหาหนี้สินเกษตรกรทวีความรุนแรง เสนอให้รัฐบาลยกเรื่องนี้เป็นวาระแห่งชาติ พร้อมเร่งพัฒนาอีสาน เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ เร่งโครงการรถไฟฟ้าไทยจีนเชื่อมโยงทั้งภาค
นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคสร้างอนาคตไทย โพสต์เฟซบุ๊กถึงการลงพื้นที่ภาคอีสาน 4 จังหวัดเป็นครั้งแรกของคณะผู้บริหารพรรค ซึ่งเริ่มจากจังหวัดหนองบัวลำภู – สกลนคร – มุกดาหาร และอุบลราชธานี ในระหว่างวันที่ 26-28 พ.ค. ที่ผ่านมาว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้ นอกจากเพื่อไปนำเสนอแนวคิดแนวนโยบายของพรรคต่อพี่น้องประชาชนแล้ว พรรคยังได้เปิดตัวแนะนำผู้แสดงเจตจำนงที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งเป็น สส. ในนามพรรค และที่สำคัญที่สุดคือตั้งใจไปรับฟังปัญหาและแนวทางการพัฒนาพื้นที่จากคนในพื้นที่โดยตรง เพื่อนำข้อมูลที่ได้กลับมาจัดทำเป็นนโยบายดูแลชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนในภาคอีสานต่อไป
โดยในการลงพื้นที่ครั้งนี้ พบว่าประเด็นปัญหาหนี้สินเกษตรกรเป็นเรื่องที่พูดถึงมากที่สุด แม้หลายสิบปีที่ผ่านมาฝ่ายการเมืองได้หยิบยกขึ้นมาพูดหาเสียงทุกครั้ง แต่มาจนถึงทุกวันนี้ ปัญหาหนี้สินไม่ได้ทุเลาเบาบางลง แต่กลับหนักหน่วงขึ้น เพราะสถานการณ์โควิดที่กระทบกับการหารายได้ และค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นจากราคาสินค้าต่างๆที่กำลังขยับเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้เกษตรกรชักหน้าไม่ถึงหลังจึงต้องกู้หนี้ยืมสินเพิ่ม
“ผมเชื่อว่า ปัญหาหนี้สินไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยการพักชำระหนี้ให้เกษตรกรแค่ปีสองปี เพราะในที่สุดแล้วหนี้สินเหล่านั้นก็กลับมาใหม่อยู่ดี แต่เราต้องแก้ด้วยการสร้างโอกาสในการหารายได้เพิ่มให้เกษตรกรควบคู่ไปกับการปรับโครงสร้างหนี้ให้ยืดระยะเวลาออกไปอย่างเหมาะสม สอดคล้องกับความสามารถในการหารายได้ที่เพิ่มขึ้น เพื่อให้เกษตรกรมีโอกาสตั้งหลักใหม่ได้อย่างแท้จริง หลุดพ้นจากวงจรการเป็นหนี้สินแบบเดิมๆ”
นายอุตตม กล่าวว่า สำคัญที่สุด การแก้ปัญหาหนี้สินต้องได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่าย ทั้งตัวเกษตรกรเอง และชุมชนท้องถิ่นที่ต้องมีบทบาทร่วมคิดร่วมแก้ไข ขณะเดียวกันรัฐบาลก็สมควรขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาหนี้สินของพี่น้องเกษตรกรอย่างจริงจังและต่อเนื่อง โดยเสนอยกระดับการแก้ปัญหาหนี้สินเกษตรกรเป็น #วาระแห่งชาติ เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งกระทรวงเกษตร คลัง พาณิชย์ การท่องเที่ยว ได้หารือออกมาตรการที่สอดรับระหว่างกันภายใต้นโยบายของรัฐบาล เพื่อสามารถดำเนินการได้มีประสิทธิภาพครบทั้งการแก้หนี้และการสร้างรายได้เพิ่ม
รัฐบาลต้องช่วยให้เกษตรกรมีโอกาสใหม่ๆในการสร้างรายได้ เช่น การทำเกษตรแบบผสมผสาน และการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวชุมชน รวมถึงการผลิตสินค้าชุมชน โดยเอาการตลาดเป็นตัวนำ ก็จะเป็นการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจฐานรากที่เริ่มจากความแข็งแกร่งภายในของเราเอง สุดท้ายก็จะทำให้เศรษฐกิจประเทศเข้มแข็งและยั่งยืน
“ภาคอีสานมีของดีเยอะครับ โดยเฉพาะด้านทำเลที่ตั้ง ถือเป็นศูนย์กลางคมนาคมการค้าที่ยึดโยงกับประเทศเพื่อนบ้านและเอเชียตะวันออกเชียงใต้ โดยทางเหนือเชื่อมลาว-จีน ตะวันออกเชื่อมลาว-เวียดนาม ทางตะวันตกมีถนนทางหลวงหมายเลข 12 East-West Economic Corridor จากมุกดาหาร-ขอนแก่น-พิษณุโลก-ตาก เชื่อมไปพม่า เพราะฉะนั้นผมเห็นว่ารัฐบาลมีหน้าที่ต้องพัฒนา และใช้ประโยชน์จากทำเลที่ตั้งของภาคอีสานให้เต็มที่ เช่น การจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษด้านเกษตรชีวภาพ โดยอาศัยพื้นฐานภาคเกษตรที่มีอยู่ เพื่อยกระดับความเข้มแข็งชุมชน ไปพร้อมๆกัน”
นอกจากนี้ยังต้องเร่งสร้างโครงข่ายการการคมนาคมให้สมบูรณ์ เช่น รถไฟความเร็วสูงไทย-จีน ที่ไทยยังก่อสร้างได้ช้ามาก รวมทั้งต้องเร่งพัฒนาให้ครอบคลุมทุกพื้นที่เพื่อให้สอดรับกับการพัฒนาให้เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ ที่มุ่งเน้นด้านเกษตรชีวภาพ และเชื่อมโยงไปถึงการพัฒนาเศรษฐกิจชุมชนฐานราก ซึ่งเชื่อว่าหากทำได้ครบทุกด้านนักลงทุนก็จะเข้ามาลงทุนในภาคอีสานเพิ่มมากขึ้นอย่างแน่นอน
https://www.facebook.com/100044054810088/posts/564819154996573/