ประชุมครั้งประวัติศาสตร์ของสองเกาหลี
เมื่อวันที่ 27 เม.ย. เวลา 09.30 น. ผู้นำประเทศเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ได้มาพบกันที่เขตปลอดทหารที่แบ่งแยกทั้งสองเกาหลีออกจากกันเพื่อร่วมประชุมครั้งประวัติศาสตร์ โดยตั้งเป้าเพื่อปลดอาวุธนิวเคลียร์
เป็นครั้งแรกในรอบ 65 ปีหลังจบสงครามเกาหลีที่ผู้นำเกาหลีเหนือเดินเท้าข้ามพรมแดนเข้ามาที่หมู่บ้านปันมุนจอมในเขตปลอดทหาร โดยมีประธานาธิบดีมุนแจอินแห่งเกาหลีใต้ยืนให้การต้อนรับที่เส้นแบ่งเขตแดน ทั้งสองได้ถ่ายรูปร่วมกันต่อหน้ากองทัพสื่อจากทั่วโลก การประชุมครั้งนี้ถือเป็นการปูทางให้กับการประชุมที่จะมีขึ้นระหว่างประธานาธิบดีคิมจองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯ หลังจากนี้ แต่ยังไม่มีกำหนดแน่นอนว่าเป็นช่วงปลายเดือนพ.ค.หรือต้นเดือนมิ.ย.
“ ดีใจที่ได้พบคุณ ” ประธานาธิบดีมุนกล่าวกับประธานาธิบดีคิม โดยเขาได้ก้าวเข้าไปในเขตแดนของเกาหลีเหนือด้วยก่อนที่จะถอยกลับมา
“ ประวัติศาสตร์หน้าใหม่เริ่มต้นขึ้นแล้วในตอนนี้ ที่จุดเริ่มต้นของประวัติศาสตร์และยุคของสันติภาพ ” ผู้นำเกาหลีเหนือเขียนในสมุดเยี่ยมของแขกผู้มาเยือนอาคาร Peace House ซึ่งเป็นสถานที่จัดการประชุม
สื่อ KCNA ของเกาหลีเหนือรายงานว่า ประธานาธิบดีคิมจะพูดคุยแลกเปลี่ยนความเห็นกับผู้นำเกาหลีใต้ด้วยใจที่เปิดกว้าง ในทุกประเด็นเพื่อปรับปรุงความสัมพันธ์ระหว่างสองเกาหลีและเพื่อสันติภาพ ความมั่นคง และการรวมกันเป็นหนึ่งในคาบสมุทรเกาหลี
ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีมุนเดินทางออกจากทำเนียบฟ้า เป็นขบวนรถนับสิบคันแล่นตามไปเป็นแถว มีผู้สนับสนุนเขายืนโบกธงชาติเกาหลีอยู่สองข้างทาง และมีเฮลิคอปเตอร์บินวนเวียนสังเกตการณ์โดยตลอด โดยก่อนที่เขาจะขึ้นรถ เขาได้ยิ้มโบกมือให้กับกลุ่มผู้สนับสนุนเขาและกล่าวขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ทั้งนี้ การปลดอาวุธนิวเคลียร์ถือเป็นประเด็นสำคัญที่สุดในการประชุมครั้งนี้
ในปีที่แล้ว เกาหลีเหนือทำการทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ครั้งที่ 6 และยิงขีปนาวุธพิสัยไกลข้ามทวีปที่สามารถไปถึงดินแดนของสหรัฐฯ ทำให้เกิดความตึงเครียดและการตอบโต้กันด้วยวาทกรรมไปมาระหว่างประธานาธิบดีคิมกับประธานาธิบดีทรัมป์อย่างดุเดือด
ประธานาธิบดีมุนใช้โอกาสที่เกาหลีใต้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวในเดือนก.พ.ที่ผ่านมาเริ่มสานสัมพันธ์กับเกาหลีเหนือ โดยทางเกาหลีเหนือส่งคิมโยจอง น้องสาวของประธานาธิบดีคิมมาเป็นผู้แทนเข้าร่วมในพิธีเปิด และมีการพูดคุยกับประธานาธิบดีมุน หลังจากนั้น ทางเกาหลีใต้ก็ส่งคณะผู้แทนไปประชุมที่เกาหลีเหนือ ถือเป็นการเปิดทางให้มีการประชุมระหว่างผู้นำทั้งสองเกาหลีในวันนี้
ผู้นำเกาหลีใต้กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้ระหว่างเขาและประธานาธิบดีคิมจะเหมือนเป็นการอุ่นเครื่องก่อนที่ประธานาธิบดีคิมจะประชุมกับผู้นำสหรัฐฯ ในอนาคตอันใกล้
ประธานาธิบดีทรัมป์ต้องการให้เกาหลีเหนือยกเลิกโครงการอาวุธนิวเคลียร์ และกดดันให้เป็นไปตามที่ต้องการด้วยการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือด้วยมาตรการทางเศรษฐกิจมาโดยตลอด
แต่เมื่อวันที่ 26 เม.ย. ทางเกาหลีใต้ระบุว่า การตกลงเรื่องการปลดอาวุธนิวเคลียร์จะมีความแตกต่างจากข้อตกลงการปลดอาวุธนิวเคลียร์ในช่วง 30 กว่าปีก่อน “ ประเด็นอาวุธนิวเคลียร์ทำให้การประชุมครั้งนี้มีความยากขึ้นมาก ” อิมจองซอก หัวหน้าฝ่ายเลขานุการประธานาธิบดีเกาหลีใต้ให้สัมภาษณืกับผู้สื่อข่าว
การจัดให้มีการรวมตัวกันเพื่อพบกับสมาชิกในครอบครัวที่พลัดพรากกันจากสงครามเกาหลี เป็นอีกประเด็นที่จะมีการพูดคุยกันในการประชุมครั้งนี้ และประธานาธิบดีมุนกล่าวกับนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะแห่งญี่ปุ่นว่า เขาจะหยิบยกประเด็นที่พลเมืองญี่ปุ่นถูกลักพาตัวโดยชาวเกาหลีเหนือขึ้นมาพูดคุยด้วย.