คปภ.จี้ประกันจ่ายเหตุไฟฟ้าเซ็นทรัลเวิลด์
เลขาฯคปภ.สั่งติดตามและเร่งรัดบริษัทประกันภัยจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้ครอบครัวผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ รวมถึงเจ้าของศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ หลังเกิดเหตุเพลิงไหม้บริเวณชั้น 8
เหตุเพลิงไหม้บริเวณชั้น 8 ภายในศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ใกล้เคียงกับโรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ และบางกอก คอนเวนชัน เซ็นเตอร์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์ เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร เมื่อช่วงเย็นวันที่ 10 เม.ย.ที่ผ่านมา จนมีผู้เสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บ 20 คน ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับระบบประกันภัยนั้น ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ระบุว่า ได้สั่งการให้สายกำกับผลิตภัณฑ์ประกันภัย สายคุ้มครองสิทธิประโยชน์ และสำนักงาน คปภ. เขตท่าพระ ลงพื้นที่เพื่อติดตามและประสานงานอย่างใกล้ชิดเพื่อให้ความช่วยเหลือด้านประกันภัยอย่างทันท่วงที
จากการตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นพบว่า ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ได้ทำประกันภัย ซึ่งให้คุ้มครองความเสี่ยงภัยทุกประเภท (Industrial All Risk Insurance) ประกันภัยธุรกิจหยุดชะงัก (Business Interruption Insurance) รวมถึงความรับผิดชอบต่อสาธารณะ (Public Liability Insurance) เริ่มต้นความคุ้มครอง และสิ้นสุดความคุ้มครองในวันที่ 31 มี.ค.63 ได้แก่ กรมธรรม์ประกันภัยความเสี่ยงภัยทรัพย์สิน เลขที่ 001-OIAR19-000815 จำนวนเงินเอาประกันภัย 15,516,500,000 บาท กรมธรรม์ประกันภัยธุรกิจหยุดชะงัก เลขที่ 001-OBII19-000069 จำนวนเงินเอาประกันภัย 11,325,000,000 บาท และกรมธรรม์ประกันภัยความรับผิดตามกฎหมายต่อบุคคลภายนอก เลขที่ 001-OPLL19-000096 จำนวนเงินเอาประกันภัยสำหรับการบาดเจ็บต่อร่างกายหรือเสียชีวิตและความเสียหายต่อทรัพย์สินของบุคคลภายนอกภายในวงเงินจำกัดความรับผิดไม่เกิน 100,000,000 บาท ต่ออุบัติเหตุแต่ละครั้งและตลอดระยะเวลาเอาประกันภัย โดยทำไว้กับบริษัทประกันภัยร่วม (Co-Insurers) จำนวน 5 บริษัท ประกอบด้วย บมจ.ฟอลคอนประกันภัย สัดส่วน 45% บมจ.เมืองไทยประกันภัย 25 % บมจ.เทเวศประกันภัย 20% บมจ.กรุงเทพประกันภัย และบมจ.ทิพยประกันภัย บริษัทละ 5%
สำหรับในส่วนของโรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ และบางกอก คอนเวนชั่น เซ็นเตอร์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์ ได้ทำประกันภัยความเสี่ยงภัยทรัพย์สิน กรมธรรม์เลขที่ 0688068433 เริ่มต้นความคุ้มครองและสิ้นสุดความคุ้มครองวันที่ 31 ธ.ค.62 จำนวนเงินเอาประกันภัย 6,294,974,214 บาท เป็นความคุ้มครองการประกันภัยทรัพย์สิน จำนวนเงินเอาประกันภัย 4,449,020,730 บาท และการประกันภัยธุรกิจหยุดชะงักจำนวนเงินเอาประกันภัย 1,845,953,484 บาท ไว้กับบริษัทประกันภัยร่วม (Co-Insurers) จำนวน 7 บริษัท ประกอบด้วย บจ.นิวแฮมพ์เชอร์ อินชัวรันส์ สัดส่วน 28% บมจ.เจนเนอราลี่ ประกันภัย สัดส่วน 24% บมจ.ประกันคุ้มภัย 17% บมจ.ทิพยประกันภัย 15% บมจ.อาคเนย์ ประกันภัย 8% บมจ.เอฟพีจี ประกันภัย (ประเทศไทย) 5% และบมจ.ฟอลคอนประกันภัย อีก 3%
ทั้งนี้ ได้สั่งการให้สายคุ้มครองสิทธิประโยชน์ และสำนักงาน คปภ. เขตท่าพระประสานบริษัทประกันภัยเร่งลงพื้นที่สรุปความเสียหายที่เกิดขึ้น เพื่อจะได้ดำเนินการจ่ายค่าสินไหมทดแทนด้วยความรวดเร็ว ถูกต้องและเป็นธรรม รวมทั้งเข้าเยี่ยมครอบครัวผู้เสียชีวิตเพื่อแสดงความเสียใจ นอกจากนี้ ยังได้ประสานกับบริษัทประกันภัยเพื่อตรวจสอบข้อมูลการทำประกันภัยเพิ่มเติมอย่างใกล้ชิด หากพบว่ามีการทำประกันภัยไว้ จะเร่งดำเนินการให้บริษัทประกันภัยจ่ายค่าสินไหมทดแทนโดยเร็วต่อไป
“ขอแสดงความเสียใจอย่างยิ่งกับครอบครัวผู้เสียชีวิต ผู้ได้รับบาดเจ็บ และผู้ได้รับความเสียหายในครั้งนี้ สำนักงานคปภ.พร้อมจะช่วยอำนวยความสะดวกด้านการประกันภัยและประสานความช่วยเหลือด้านค่าสินไหมทดแทนอย่างเต็มที่” เลขาธิการ คปภ. ย้ำ และว่า
อุบัติเหตุและอุบัติภัยสามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา โดยที่เราไม่คาดคิด และเมื่อเกิดขึ้นแล้วอาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินได้ ดังนั้น ไม่ควรประมาทและมองข้ามความสำคัญของการทำประกันภัยที่เป็นเครื่องมือในการบริหารความเสี่ยงที่ดีที่สุด ที่สามารถช่วยแบ่งเบาภาระความเดือดร้อนของท่านได้ ซึ่งประชาชนและผู้ประกอบการต่างๆสามารถเลือกซื้อกรมธรรม์ประกันภัยได้ตามความเหมาะสมกับสภาพความเสี่ยงของตนเอง อย่างไรก็ตาม ขอให้พิจารณาจากสถานที่ตั้ง และลักษณะการใช้อาคารของผู้เอาประกันภัย รวมทั้งความสามารถในการชำระเบี้ยประกันภัยด้วย ทั้งนี้ หากมีข้อสงสัยด้านการประกันภัย สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วน คปภ. 1186.