จำคุก 24 ปีอดีตผู้นำเกาหลีใต้
เมื่อวันที่ 6 เม.ย.พัคกึนฮเย อดีตประธานาธิบดีแห่งเกาหลีใต้ถูกศาลพิพากษาจำคุก 24 ปีในข้อหาคอร์รัปชัน ปิดฉากอดีตผู้นำหญิงคนแรกของเกาหลีใต้ที่ก่อให้เกิดกระแสการขับไล่จากประชาชนที่ไม่พอใจไปทั่วประเทศในปี 2559
“จำนวนการรับสินบนที่ถูกกล่าวหาว่าเธอได้รับ หรือมีการสมคบคิดกับชเวมีมูลค่ามากกว่า 23,000 ล้านวอน” ผู้พิพากษาคิมเซยุน เอ่ยอ้างถึงเพื่อนสนิทที่คบกันมายาวนานของเธอคือชเวซุนซิล
“ศาลพิพากษาลงโทษจำคุกเป็นเวลา 24 ปี และปรับเป็นเงินจำนวน 18,000 ล้านวอน”
พัค วัย 66 ปี ต่อต้านกระบวนการไต่สวนส่วนใหญ่ในศาล เพื่อเป็นการประท้วงที่เธอถูกจับกุมดำเนินคดี เธอไม่ปรากฎตัวที่ศาลในวันที่ศาลตัดสินในวันที่ 6 เม.ย.ที่มีการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ ซึ่งเป็นเรื่องที่ยากจะเกิดขึ้นในเกาหลีใต้
โดยอัยการเสนอโทษจำคุก 30 ปีและโทษปรับ 118,500 ล้านวอนสำหรับเธอ หลังจากจับกุมตัวเธอในข้อหารับสินบน ใช้อำนาจในทางที่มิชอบและบังคับขู่เข็ญ
กลุ่มผู้สนับสนุนเธอนับร้อยรวมกลุ่มกันยืนโบกธงอยู่หน้าศาลในกรุงโซล เพื่อให้กำลังใจเธอที่เป็นประธานาธิบดีหญิงคนแรกของเกาหลีใต้ หลายคนถือป้ายและตะโกนร้องปกป้องว่าเธอเป็นผู้บริสุทธิ์ พวกเขาเชื่อว่าเธอไม่ได้กระทำความผิด
พัคกึนฮเย เป็นบุตรสาวของอดีตประธานาธิบดีพัคชองฮี ผู้นำเผด็จการที่ถูกลอบสังหาร เธอเข้าดำรงตำแหน่งผู้นำของเกาหลีใต้ในปี 2556 ในฐานะไอคอนอนุรักษ์นิยมและกำหนดบทบาทตัวเองเป็นลูกสาวของชาติ ที่มีความซื่อตรงและไม่เป็นหนี้บุญคุณที่จะต้องตอบแทนใคร
หลังจากเป็นผู้นำประเทศได้ไม่ถึง 4 ปี เธอก็ถูกถอดถอน หลังจากมีข่าวฉาวเรื่องที่ชเวซุนซิล – เพื่อนสนิทของเธอมีการรับสินบนจากบริษัทยักษ์ใหญ่เพื่อผลประโยชน์ต่างตอบแทน และประชาชนที่ไม่พอใจออกมาชุมนุมประท้วงตามถนนนับล้านคน
“พัคปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และไม่แสดงอาการสำนึกผิด หรือความรู้สึกที่อยากจะขอไถ่โทษ ทั้งทางกฎหมายและทางการเมือง สำหรับสิ่งที่ถือว่าเป็นข่าวอื้อฉาวทางการเมืองที่สร้างความตกใจและคาดไม่ถึงมากที่สุดในประวัติศาสตร์ยุคใหม่ของประเทศเรา” จองฮันวุล นักวิเคราะห์ที่สำนักคิด Soeul Hankook Research กล่าว
“ความคิดของเธอที่แสดงออกมาและความโกรธเคืองของประชาชนที่มีต่อข่าวฉาวยังคงคุกรุ่น จึงเป็นเรื่องยากที่จะสร้างบรรยากาศที่ดีทางการเมืองด้วยการปล่อยตัวเธอออกมาเร็วกว่ากำหนดในเร็วๆนี้”
ก่อนหน้านี้ อดีตประธานาธิบดีชุนดูฮวานและโรแทวู ซึ่งถูกตัดสินจำคุกในข้อหาคอร์รัปชัน ได้รับการอภัยโทษในฐานะประธานาธิบดีหลังจากถูกจำคุกได้ 2 ปี ซึ่งถือว่าเป็นอภิสิทธิ์ที่อาจช่วยให้พัคไม่ต้องถูกจำคุกนานหลายปีด้วยเช่นกัน
ประธานาธิบดีมุนแจอิน ชนะการเลือกตั้งอย่างท่วมท้นและเข้าดำรงตำแหน่งต่อจากพัค เขามาจากพรรคที่มีแนวคิดแบบเสรีนิยม ตรงกันข้ามกับพัคที่มาจากพรรคอนุรักษ์นิยม จึงอาจเป็นการดับความหวังที่จะมีการอภัยโทษให้เธอในวาระที่เขาดำรงตำแหน่งอยู่
กลุ่มผู้สนับสนุนเธอรู้สึกเสียใจกับเธอ เนื่องจากเห็นเธอมาตั้งแต่ตอนที่เธอต้องสูญเสียพ่อแม่ของเธอและในเวลาที่ผ่านมา เธอทุ่มเทชีวิตให้กับการรับใช้ประเทศ โดยเธอไม่เคยแต่งงาน หรือมีบุตร ยิ่งทำให้มีผู้อาวุโสมากมายที่เอ็นดูเธอมาตลอด
โดยเธอเคยประกาศว่า “ดิฉันแต่งงานกับประเทศ ดิฉันไม่มีลูก เกาหลีใต้เป็นครอบครัวของดิฉัน”
แต่สำหรับคนส่วนใหญ่ของเกาหลีใต้ พวกเขาไม่ยอมรับเธออย่างถาวร เธอจะไม่ถูจดจำในหน้าประวัติศาสตร์ว่าเป็นประธานาธิบดีหญิงคนแรก แต่จะเป็นประธานาธิบดีที่ชนะการเลือกตั้งแบบประชาธิปไตยที่ถูกถอดถอนจากตำแหน่ง.