สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 7 พ.ค. 65
ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก มีฝนเพิ่มมากขึ้น ส่วนภาคใต้มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง และคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น
ปริมาณฝนตกใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา มีฝนตกหนักบริเวณ จ.ตาก (148 มม.) จ.นครศรีธรรมราช (116 มม.) และ จ.ประจวบคีรีขันธ์ (70 มม.)
แม่น้ำสายหลัก น้ำน้อยถึงปกติ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ส่วนแม่น้ำโขง น้ำน้อยถึงปกติ มีแนวโน้มลดลง
ปริมาณน้ำ แหล่งน้ำทุกขนาด 46,106 ล้าน ลบ.ม. (56%) แหล่งน้ำขนาดใหญ่ 40,320 ล้าน ลบ.ม. (56%) เฝ้าระวังน้ำน้อย บริเวณภาคเหนือ (3 แห่ง) ภาคตะวันออก (1 แห่ง)
เฝ้าระวังดินถล่มและน้ำป่าไหลหลาก บริเวณ
จ.ชุมพร (อ.พะโต๊ะ สวี ละแม ทุ่งตะโก ท่าแซะ และปะทิว)
จ.สุราษฎร์ธานี (อ.กาญจนดิษฐ์ วิภาวดี เกาะสมุย และเกาะพะงัน)
จ.นครศรีธรรมราช (อ.พรหมคีรี ลานสกา และขนอม)
กอนช. ติดตามการเตรียมความพร้อมรับมือฤดูฝน ปี 65 ดังนี้
สทนช. ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดประชุมพิจารณาเกณฑ์การบริหารจัดการน้ำเขื่อนบางลาง ตาม 13 มาตรการรับมือฤดูฝน ปี 2565 (มาตรการที่ 3 ทบทวน ปรับปรุงเกณฑ์การบริหาร
จัดการน้ำในแหล่งน้ำขนาดใหญ่-กลาง และเขื่อนระบายน้ำ) โดยที่ประชุมได้ร่วมกันพิจารณาสภาพอากาศ การคาดการณ์ปริมาณฝน และสถานการณ์น้ำในพื้นที่ เพื่อปรับเกณฑ์การเก็บกักและระบายน้ำเขื่อนบางลาง ปี 65/66 ให้เหมาะสม สามารถรองรับสถานการณ์อุทกภัย รวมถึงการจัดสรรน้ำในพื้นที่ให้มีประสิทธิภาพต่อไป
กรมชลประทาน ดำเนินการบริหารจัดการน้ำเพื่อรับมือฤดูฝน ปี 65 ในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ ดังนี้
บริหารจัดการน้ำผ่านคลองชลประทานจำนวน 15 สาย ประตูระบายน้ำและสถานีสูบน้ำ 11 แห่ง
ติดตามสภาพอากาศและปริมาณฝนย้อนหลัง เพื่อการบริหารจัดการน้ำให้สอดคล้องกับสถานการณ์ พร้อมกำหนดเกณฑ์เฝ้าระวัง
ติดตามตรวจสอบความพร้อมของอาคารชลประทาน และสถานีสูบน้ำให้พร้อมใช้งานได้อย่างเต็มศักยภาพ
พร่องน้ำในคลองชายทะเลเพื่อรองรับปริมาณน้ำที่เพิ่มขึ้น
จัดเตรียมเครื่องจักร-เครื่องมือ ประจำพื้นที่เสี่ยงพร้อมใช้งานได้ทันที