ข่าวเด่น ข่าวดัง วันที่ 13-14 เม.ย.2565
“และแล้วทักษิณ ชินวัตร ก็เฉลยออกมาแล้ว ว่าแผนการกลับประเทศไทย ที่ประกาศย้ำหลายรอบว่าจะกลับเป็นแน่แท้นั้น เป็นเพียงความฝัน”
เรื่องที่ 1,008 เมื่อคืนวันที่ 12 เม.ย.ที่ผ่านมา “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรี ร่วมพูดคุยในรายการ CareTalk x CareClubHouse กล่าวถึงกรณีที่เคยพูดว่าจะกลับประเทศไทยในปีนี้ว่า โดยเริ่มพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนๆ ว่า ยังไม่อยากพูดอะไรมาก เพราะจะเป็นประเด็น แต่สรุปว่า ที่พูดไว้อย่างไร ใจก็ยังไม่ได้เปลี่ยน เพราะผมไม่ใช่คนเปลี่ยนใจง่าย
พอผู้ดำเนินรายการ พยายามถามถึงความเป็นจริง จะกลับได้อย่างที่พูดเอาไว้หรือไม่ “ทักษิณ” พูดขึ้นว่า มี 3 อย่าง ระดับแรกคือมโน เกิดจากโลภ โกรธ หลง อิจฉาริษยา เกลียดชัง
อันที่ 2 คือฝัน ความต้องการอยากให้สิ่งดีๆ เกิดขึ้นกับตัวเอง
ส่วนที่ 3 คือจินตนาการ การมองไปข้างหน้าว่าอยากเห็นอะไรดีๆ สำหรับตัวเองส่วนรวม
“ทักษิณ” บอกว่า ทั้ง 3 ส่วน ไม่ว่าจะเป็น มโน ฝัน จินตนาการ มีความต่างกัน แต่วันนี้ประเทศไทยอยู่กับมโนเยอะมาก โดยเฉพาะไอโอทั้งหลาย ที่ขุดเรื่องของตนเองไปใส่ความ
กระทั่งในช่วงท้าย “ทักษิณ” ถึงยอมออกปากว่าเรื่องทั้งหมดนั้น มันเป็นฝัน แต่ก็เป็นฝันที่มีความตั้งใจอยู่ เป็นความฝันที่มีความปรารถนาอยากให้ฝันเป็นจริง
ทำเอาแฟนคลับผิดหวังกันเลยทีเดียว เพราะหลังจากทักษิณ ชินวัตร ประกาศจะกลับไทยในปีนี้ แฟนคลับต่างตั้งหน้าตั้งตารอ
เรื่องที่ 1,009 ต้องยกให้เป็นองค์กรแห่งความขยัน และความคิดสร้างสรรค์ไปเลยสำหรับ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) หรือชื่อใหม่ว่า ดีพร้อม (DIPROM) เพราะแม้จะเป็นวันหยุดช่วงเทศกาลสงกรานต์ หรือปีใหม่ไทยแล้ว แต่ก็ยังมีผลงานข่าวประชาสัมพันธ์ออกมา โดยเลือกที่จะใช้กระแสของเทศกาลเชิญชวนเที่ยว ชุมชนหมู่บ้าน DIPROM CIV ที่อยู่ภายใต้โครงการของกรมฯ ซึ่งท่านอธิบดี “ดร.ปั้น-ณัฐพล รังสิตพล” ได้ทำไกด์ไลน์สถานที่ต่างๆ พร้อมของดีของเด่น ให้ได้เลือกสรร สนับสนุนการท่องเที่ยวและสร้างรายได้ให้กับชุมชนภายใต้ ““ดีพร้อมไกด์ ชวนชาร์จพลังช่วงวันหยุดยาวกับ 5 แหล่งท่องเที่ยว-ช้อปของฝากสุดฟิน ชุมชนหมู่บ้าน DIPROM CIV”
ไม่ว่าจะเป็นท่องเที่ยววิถีชีวิตชุมชน คนมะพร้าวบ้านริมคลองโฮมสเตย์ จังหวัดสมุทรสงคราม, ชิมมะดัน มะยงชิดรสดี เที่ยวชมสถาปัตยกรรมญวนและวิถีชีวิตริมน้ำที่ชุมชนท่าทราย จังหวัดนครนายก, ท่องเที่ยวริมน้ำเจ้าพระยา ช้อปของฝากงานจักสานจากผักตบชวา ที่ชุมชนบ้านอ้อย จังหวัดชัยนาท และอีกมากมาย บก.ชวนคุยเห็นแล้วก็อยากจะเก็บกระเป๋าเดินทางออกไปท่องเที่ยวตามรอยกันเลยดีเดียวครับผม
เรื่องที่ 1,010 วันหยุดยาวตลอดช่วงสงกรานต์แบบนี้ มาคุยประเด็นเกี่ยวกับเรื่องเศรษฐกิจกันบ้าง เพราะล่าสุด “บิ๊กตู่” ในฐานะหัวขบวนก็แสดงอาการเป็นห่วงเศรษฐกิจไทย ทั้งๆ ที่ไม่ค่อยมีความรู้เศรษฐกิจ แต่รอบล่าสุด หลังประชุม ครม.เมื่อวันที่ 12 เม.ย.ใครบอกว่า “บิ๊กตู่” ไม่รู้เรื่องเศรษฐกิจต้องไปอ่านข่าวเรื่องนี้ ซ้ำให้ดีอีกรอบ เพราะอัตราเงินเฟ้อที่กระทรวงพาณิชย์หลอกชาวบ้านมาโดยตลอดว่า ขึ้นไม่เยอะ ไตรมาสแรกปีนี้ อยู่ที่ 5.73% ไม่มีผลกระทบต่อค่าครองชีพนั้น ตอนนี้ ความจริงเริ่มปรากฏเนื่องจากผู้ผลิตไม่ผลิตสินค้า ผู้นำเข้าไม่ยอมนำเข้าสินค้าเข้าจำหน่ายในประเทศ เพราะกระทรวงพาณิชย์ไม่ไฟเขียวปรับขึ้นราคาสินค้า ทำให้สินค้าบางตัว (ย้ำนะครับ) บางตัว บางรายการ หายหน้าไปจากชั้นวางสินค้าหรือ shelf ในห้างบ้างแล้ว จึงกลายเป็นที่มาของข่าวพาดหัวว่า “นายกฯ ห่วงเงินเฟ้อพุ่ง เศรษฐกิจติดลบ”
ขณะที่ข่าวใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจในช่วงวันหยุดยาวแบบนี้ สอดคล้องเหมาะเจาะมากที่เดียว เมื่อ ธอส.หรือธนาคารอาคารสงเคราะห์ ประกาศผลดำเนินงานไตรมาสแรกออกด้วยสวยหรู ยอดสินเชื่อพุ่งทะลุ 6.2 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 33.21% มุมมองของคนทั่วไปอาจฟังดูดี แต่ข้อมูลที่แท้จริงแล้ว กลับรู้สึกหดหู่และตกใจเมื่อเห็นข่าวนี้ กรณีการที่ ธอส.ปล่อยสินเชื่อได้มาก อีกมุมหนึ่งนั้น สะท้อนให้เห็นแบงก์เอกชนไม่ปล่อยกู้ เพราะกลัวหนี้เน่า และอีกประการหนึ่งคือ การมียอดปล่อยสินเชื่อบ้านมากๆ ในช่วงเศรษฐกิจเกิด “วิกฤติซ้อนวิกฤติ” (โควิด-สงครามรัสเซียกับยูแครน) แบบนี้ ทำให้เกิดความสงสัยว่า ผู้กู้มีความแข็งแรงจริงหรือไม่ หรือเป็นเพียงแค่กลยุทธ์จากอัตราดอกเบี้ยต่ำ จูงใจให้คนมีบ้านเร็วขึ้น
แต่คนที่รู้ทัน อย่างรมว.คลัง “อาคม เติมพิทยาไพสิฐ” ล่าสุด ได้สั่งกำชับให้ธนาคารเฉพาะกิจของรัฐ เช่น ธนาคารออมสิน ธนาคารกรุงไทย เร่งระดมปล่อยสินเชื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ เพื่อรองรับฟื้นตัวของการท่องเที่ยว อย่าให้ ธอส.โชว์ตัวเลขสินเชื่อบ้านเพียงหน่วยงานเดียว และไม่อยากเห็นสินเชื่อเพื่อสังคมของธนาคารออมสินเท่านั้น แต่อยากเห็นสินเชื่อเริ่มต้นธุรกิจใหม่ หรือ restart มากที่สุดครับ
โดยนพวัชร์