คปภ.จี้ประกันจ่ายเยียวยาศพต่างด้าว
คปภ.เร่งประกันจ่ายเยียวยาค่าสินไหมทดแทนกรณีแรงงานต่างด้าวดับ 10 ศพ ที่เมืองกาญจน์
อุบัติเหตุรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ (หัวลาก) หมายเลขทะเบียน 70-7352 เพชรบุรี (ตัวพ่วง) หมายเลขทะเบียน 70-7353 เพชรบุรี พุ่งชนรถตู้ (แบบไม่ประจำทาง) หมายเลขทะเบียน 30-1853 จันทบุรี จนเสียหลักตกลงไปในคลองชลประทานสายบ้านถ้ำ-เพชรบุรี บริเวณแยกสระเศรษฐี ม.4 ต.บ้านใหม่ อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี เป็นเหตุให้มีผู้บาดเจ็บ 6 ราย และเสียชีวิต 10 ราย เมื่อวันที่ 23 มี.ค.ที่ผ่านม โดยผู้เสียชีวิตเป็นแรงงานชาวลาวและเวียดนาม
ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) กล่าวแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ โดยกำชับให้สายคุ้มครองสิทธิประโยชน์ บูรณาการ ร่วมกับ สำนักงาน คปภ. ภาค 7 (นครปฐม) และสำนักงาน คปภ. จ.กาญจนบุรี ตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติม เพื่อใช้ระบบประกันภัยช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้กับครอบครัวของผู้เสียชีวิตอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นธรรม
ทั้งนี้ จากการงานพบว่า รถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ (หัวลาก) ได้ทำประกันภัยรถภาคบังคับ (พ.ร.บ.) ไว้กับ บมจ.วิริยะประกันภัย สิ้นสุดความคุ้มครองวันที่ 30 มิ.ย.62 และได้ทำประกันภัยรถภาคสมัครใจ ประเภท 3 ไว้กับ บมจ.สินมั่นคงประกันภัย สิ้นสุดความคุ้มครองวันที่ 8 ม.คฐ63 ส่วน (ตัวพ่วง) หมายเลขทะเบียน 70-7353 เพชรบุรี ได้ทำประกันภัยรถภาคบังคับ (พ.ร.บ.) ไว้กับ บมจ.วิริยะประกันภัย สิ้นสุดความคุ้มครองวันที่ 30 มิ.ย.62 และได้ทำประกันภัยรถภาคสมัครใจ ประเภท 3 ไว้กับ บมจ.สินมั่นคง สิ้นสุดความคุ้มครองวันที่ 8 ม.ค.63 (ซึ่งเป็นการทำประกันภัยส่วนควบความคุ้มครองเดียวกันกับหัวลาก)
ในส่วนของรถตู้ได้ทำประกันภัยรถภาคบังคับ (พ.ร.บ.) ไว้กับบมจ.วิริยะประกันภัย สิ้นสุดความคุ้มครองวันที่ 31 มี.ค.62 และได้ทำ.ร.บ. ไว้กับบมจ.เอ็ม เอส ไอ จี ประกันภัย สิ้นสุดความคุ้มครองวันที่ 11 มี.ค.63 รวมทั้งได้ทำประกันภัยรถภาคสมัครใจ ประเภท 1 ไว้กับบมจ.เอ็ม เอส ไอ จี ประกันภัย สิ้นสุดความคุ้มครองวันที่ 11 มีนาคม 2563
สำหรับการติดตามการจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้แก่ผู้บาดเจ็บทั้ง 6 รายนั้น ได้มีการประสานกับบริษัทประกันภัยเพื่อแจ้งสิทธิการรักษาพยาบาลกับโรงพยาบาลท่าม่วงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยผู้บาดเจ็บทั้ง 6 ราย มีอาการบาดเจ็บเล็กน้อยและเดินทางกลับบ้านแล้ว ส่วนการจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้แก่ครอบครัวผู้เสียชีวิตทั้ง 10 รายนั้น สำนักงาน คปภ. จ.กาญจนบุรี ได้ประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจและฝ่ายปกครองเกี่ยวกับการออกเอกสารต่างๆของผู้เสียชีวิตซึ่งเป็นแรงงานต่างด้าว เพื่ออำนวยความสะดวกในการช่วยประสานกับบริษัทประกันภัย รวมทั้งเร่งรัดเรื่องการจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้มีความรวดเร็วและเป็นธรรม โดยบูรณาการการทำงานร่วมกับสมาคมประกันชีวิตไทย สมาคมประกันวินาศภัยไทย บริษัทประกันชีวิตและบริษัทประกันวินาศภัยที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนจัดทำเอกสารประกอบการจ่ายค่าสินไหมทดแทนต่อไป
“แม้ว่าผู้เสียชีวิตจะเป็นแรงงานต่างด้าว แต่ก็ได้รับความคุ้มครองจากระบบประกันภัยของไทย จึงควรให้ความสำคัญกับการทำประกันภัยเพื่อช่วยบริหารความเสี่ยงภัย และขอฝากเตือนประชาชนควรใช้รถใช้ถนนด้วยความระมัดระวัง เพื่อลดความเสี่ยงต่อการสูญเสียที่จะเกิดขึ้นได้ และหมั่นตรวจสอบสภาพรถยนต์อย่างสม่ำเสมอ รวมถึงตรวจวันหมดอายุกรมธรรม์ประกันภัยรถภาคบังคับ (พ.ร.บ.) ตามที่กฎหมายกำหนด ทั้งนี้ควรทำกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจและกรมธรรม์ประกันชีวิตอื่นๆ ด้วย เพื่อที่ระบบประกันภัยจะได้เข้ามาช่วยบริหารความเสี่ยงและเยียวยาความสูญเสียต่างๆที่เกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ หากต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับประกันภัย สามารถสอบถามได้ที่ สายด่วน คปภ. 1186” เลขาธิการ คปภ. ย้ำ.