ESTAR มั่นใจทำรายได้เข้าเป้า1.6พันล.ลุยเปิด5โครงการใหม่
“อีสเทอร์น สตาร์ฯ” ประเมินอสังหาฯยังเติบโตระดับ 5% พร้อมเปิดกลยุทธ์เจาะลูกค้าระดับกลางและบน 3-7 ล้านบาท มั่นใจกฎร้อน LTV ไม่สร้างผลกระทบมากนัก ลูกค้าหลักเป็นกลุ่มเรียลดีมานด์ ซื้ออยู่จริง ลุยเปิด 3-5 โครงการใหม่ 3,000 ล้านบาท
ดร.ต่อศักดิ์ เลิศศรีสกุลรัตน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อีสเทอร์น สตาร์ เรียล เอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ “ESTAR” เปิดเผยถึงภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 2562 ว่า จะเติบโตระดับ 5% เนื่องจากยังมีปัจจับบวกที่เข้ามาสนับสนุน ทั้งเรื่องการลงทุนโครงการขนาดใหญ่(เมกะโปรเจกต์) การเปิดให้บริการและอนุมัติโครงการส่วนต่อขยายโครงการถไฟฟ้า ขณะที่การท่องเที่ยวน่าจะกลับมาดีขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี 62 รวมทั้งมีการลงทุนทั้งจากในประเทศและต่างประเทศในเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก(อีอีซี)และในอำเภอบ้านฉาง จ.ระยอง
ในส่วนของปัจจัยลบยังมีเรื่องของสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ราคาที่ดินที่ปรับสูงขึ้นในพื้นที่อีอีซี แนวโน้มดอกเบี้ยในช่วงขาขึ้น และเรื่องของมาตรการควบคุมสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ของธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)
“อีสเทอร์น สตาร์ ยังคงพัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับกลุ่มลูกค้าที่มีรายได้วในระดับกลางถึงบน กลุ่มลูกค้าระหว่าง 3-7 ล้านบาท ซึ่งจะไม่ค่อยได้รับผลกระทบจากมาตรการมากนัก รวมถึงนโยบายการเน้นกลุ่มลูกค้าเรียลดีมานด์( Real Demand ) เป็นหลัก “
สำหรับแผนธุรกิจในปีนี้ วางเป้าหมายการเปิดตัวไว้ 3-5 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 3,000 ล้านบาท ตั้งงบในการจัดซื้อที่ดินไว้ 2,000 ล้านบาท เพื่อซื้อที่ดินทั้งในกรุงเทพและในจ.ระยองเพื่อรองรับพัฒนาโครงการใหม่เพิ่มเติม โดยโครงการที่จะเปิดขายในปีนี้ ยังคงรักษาความโดดเด่นในเรื่องของการออกแบบ การกระจายโครงการในทำเลที่มีศักยภาพสูง จะมีส่วนของโครงการแนวราบ 60% และแนวสูง 40% ผลประกอบการในปีนี้ วางเป้ายอดขายไว้ 2,500 ล้านบาท และตั้งเป้าหมายมีรายได้ 1,600 ล้านบาท (รวมรายได้จากค่าเช่าและค่าบริการ) บริษัทมีสินค้าพร้อมโอนคิดเป็นมูลค่า 1,000 ล้านบาท มีสินค้ารอบันทึกเป็นรายได้(แบ็กล็อก) 2,000 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยบันทึกเป็นรายได้ในปีนี้ ประมาณ 1 ใน 3 ของแบ็กล็อก
สำหรับผลการดำเนินงานในปี 2561 ที่ผ่านมา บริษัทมียอดขายรวม 3,037 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น 196% เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2560 ที่มียอดขาย 1,026 ล้านบาท.