LINE หนุนสตาร์ทอัพไทยสู่ “ยูนิคอร์น”
LINE ประเทศไทย สานต่อโครงการ LINE ScaleUp หวังยกระดับสตาร์ทอัพไทยสู่ตลาดโลก ผนึกกำลัง LINE Ventures เติมเต็มศักยภาพ หนุนเข้าถึงเทคโนโลยีชั้นนำและคำแนะนำจากมืออาชีพ พร้อมโอกาสต่อยอดธุรกิจด้วยทุนสนับสนุนจากต่างประเทศ ประกาศอัดฉีดเงินสนับสนุน 20 ล้านดอลลาร์ให้สตาร์ทอัพที่มีผลงานเด่น
คนไทยใช้ LINE สูงถึง 44 ล้านคน (ข้อมูล ณ ม.ค.62) มากเป็นอันดับ 2 ของโลกรองจากญี่ปุ่น แม้การใช้ LINE สติ๊กเกอร์ของคนไทยจะมาเป็นอันดับ 3 ต่อจากญี่ปุ่นและไต้หวัน ทว่าตลอดทั้งปี 61 ที่ผ่านมา คนไทยก็ส่งสติกเกอร์มากกว่า 11,000 ล้านครั้ง เฉลี่ยวันละ 31 ล้านครั้ง และหากดูที่ยอดการส่งสติกเกอร์ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 61/62พบว่า มียอดสูงถึง 6.5 ล้านครั้งต่อชั่วโมง
กระนั้น…สิ่งนี้ ก็หาใช่เรื่องที่จะพลิกโฉมหน้าวงการธุรกิจไทยในยุค Digital ยกเว้น! เรื่องที่ LINE ประเทศไทย กำลังทำและต่อยอดภารกิจที่เคยทำจากปีก่อน กับโครงการที่ชื่อว่า LINE ScaleUp เพราะปีนี้ (2019) พวกเขาหมายหมั้นปั้นมือที่จะสนับสนุนให้ธุรกิจสัญชาติไทย ได้เข้าใกล้สิ่งที่เรียกว่าเป็น “ยูนิคอร์นสตาร์ทอัพ” หรือธุรกิจที่มีมูลค่าการระดมทุนมากกว่า 1 พันล้านดอลลาห์สหรัฐ (ราว 3.2 หมื่นล้านบาท)
นายเจเดน คัง ผอ.ฝ่ายบริหาร LINE ScaleUp แห่ง LINE ประเทศไทย กล่าวระหว่างการเปิดตัวโครงการ LINE ScaleUp 2019 เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 13 มี.ค.ที่ผ่านมา ว่า บริษัทฯมีความมุ่งมั่นที่จะยกระดับวงการธุรกิจสตาร์ทอัพในไทย และพร้อมส่งเสริมสตาร์ทอัพไทยสู่ระดับยูนิคอร์น โดยที่ผ่านมา LINE ประสบความสำเร็จกับการจับมือร่วมกันพันธมิตรสตาร์ทอัพมากมาย อาทิ Lalamove, Wongnai, Alpha ในบริการ LINE MAN, Scout Out ในบริการ LINE JOBS, และ Ookbee ในบริการ LINE DOODUANG และอื่นๆ รวมถึงการเข้าไปลงทุนและการซื้อกิจการสตาร์ทอัพอย่าง DGM59, Sellsuki และ Fastwork ซึ่งความร่วมมือเหล่านี้ ถือเป็นปัจจัยสำคัญของการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของเหล่าพันธมิตรสตาร์ทอัพของบริษัทฯ
ทั้งนี้ แม้ว่าภาพรวมเศรษฐกิจของไทยจะโดดเด่นและประสบความสำเร็จเมื่อเทียบกับประเทศต่างๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แต่ดูเหมือนจะสวนทางกับธุรกิจสตาร์ทอัพไทยที่ยังไม่ได้รับการสนับสนุน หรือพัฒนาเท่าที่ควร เมื่อเทียบกับประเทศอินโดนีเซีย เวียดนาม และมาเลเซีย โดยพบว่าในปีที่ผ่านมามีเม็ดเงินที่เข้ามาลงทุนในสตาร์ทอัพไทยเพียง 61 ล้านดอลลาร์สหรัฐเท่านั้น
“LINE ScaleUp เกิดขึ้นด้วยเป้าหมายสำคัญ คือ การช่วยให้สตาร์ทอัพไทยสามารถเติบโตได้เต็มศักยภาพและข้ามผ่านอุปสรรคต่างๆ ไปให้ได้ โดยในปีแรกที่ได้มีการเริ่มโครงการมีผู้สมัครเข้าร่วมโครงการมากเกิน 50 ราย โดยในปีนี้ คุณสมบัติที่เรามองหาในสตาร์ทอัพที่จะร่วมโครงการ คือ จะต้องเป็นสตาร์ทอัพที่มีการเปิดให้บริการโปรดักส์ หรือเซอร์วิสตนเองสู่ตลาดเรียบร้อยแล้ว และมีความต้องการที่จะขยายบริการ (Scale) รวมถึงมีความตั้งใจที่พัฒนาธุรกิจบนแพลตฟอร์มของ LINE อย่างจริงจัง” เจเดน คัง ระบุ และย้ำว่า…
อีกส่วนที่สำคัญของโครงการ LINE ScaleUp ในปีนี้ คือการร่วมมือกับ LINE Ventures หน่วยงานที่เน้นด้านการลงทุนภายใต้บริษัท LINE Corporation ซึ่งประกอบด้วย 3กองทุน และ 43 พอร์ตการลงทุนทั่วโลก นอกเหนือจากความรู้ คำแนะนำและประสบการณ์ต่างๆ ที่เตรียมให้กับสตาร์ทอัพไทยแล้ว LINE Ventures ยังเตรียมอัดฉีดเงินสนับสนุนสูงถึง 20 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 640 ล้านบาท) ให้สำหรับผู้ที่ผ่านการพิจารณาและคัดเลือกจากโครงการ LINE ScaleUp อีกด้วย
ด้านนายเคย์ ลิม หัวหน้าด้านการลงทุนต่างประเทศ LINE Ventures กล่าวว่า บริษัทฯมีความเชื่อมั่นว่าการสนับสนุนจาก LINE ScaleUp และ LINE Ventures จะช่วยยกระดับศักยภาพของสตาร์ทอัพไทยให้เดินหน้าสู่ซีรีย์ B หรือไกลกว่านั้นได้ และด้วยประสบการณ์และชื่อเสียงของบริษัทฯ จะเป็นตัวช่วยเพิ่มขีดความสามารถให้กับสตาร์ทอัพไทย ในการเข้าถึงศักยภาพสูงสุดของพวกเขา อีกทั้งยังเป็นโอกาสให้สตาร์ทอัพไทยในการเข้าถึงการใช้งานที่หลากหลายบนแพลตฟอร์มของ LINE และต่อยอดธุรกิจตนเองสู่ตลาดระดับสากล
อนึ่ง สตาร์ทอัพไทยที่มีความสนใจเข้าร่วมโครงการ สามารถลงทะเบียนเพื่อเข้าร่วมโครงการ LINE ScaleUp ได้ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 17 พ.ค.นี้ พร้อมเสนอผลงานในวันที่5 มิ.ย.62 โดยจะคัดเลือก 5 ทีมเข้าสู่ ScaleUp Camp ระหว่างเดือน ก.ค. – ต.ค.62 จากนั้นทำการคัดเลือกอีกครั้งเพื่อหาทีมที่ดีที่สุดในเดือน พ.ย.ต่อไป.