‘แบม’ รับปีนี้ศึกหนัก เร่งหมุนเงินซื้อเอ็นพีแอลแบงก์
“แบม” จับมือ “ไปรษณีย์ไทย” ส่งบุรุษไปรษณีย์ 2 หมื่นคนสำรวจ ตรวจสภาพทรัพย์สินรอการขายของบริษัททั่วประเทศเร่งหมุนเวียนเปิดโอกาสรับซื้อเน่าแบงก์มาบริหารแบบมืออาชีพ มั่นใจจับมือไปรษณีย์เพียง 2 ปี ต้นทุนลดลง 6%
นายบัณฑิต อนันตมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) (บสก.) หรือ BAM เปิดเผยภายหลังจับมือเป็นพันธมิตรกับบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัดว่า ความร่วมมือดังกล่าว เกิดจากความต้องการของ บสก.ในการนำประสิทธิภาพการทำงานของบริษัท ไปรษณีย์ ที่มีข้อดีคือมีบุรุษไปรษณีย์กระจายอยู่ทั่วประเทศมาก กว่า 20,000 คน และมีจำนวนสำนักงานฯ มากกว่า 10,000 แห่ง ที่สามารถเข้าถึงได้ทุกพื้นที่และยังมีความชำนาญในเชิงลึกสามารถสำรวจข้อมูลพื้นที่เบื้องต้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ ขณะที่พนักงานของ บสก.เอง มีจำนวนจำกัด การเดินทางไปสำรวจที่ดินไม่สะดวก และใช้เวลานาน
“พนักงานไปรษณีย์ จะมีหน้าที่ในการสำรวจการเปลี่ยนแปลงพื้นที่ ด้วยวิธีการถ่ายรูปและประเมินเบื้องต้น ไม่ใช่ตัวแทนของเราในการประเมินราคา แต่วิธีการนี้ จะทำให้เราสามารถประหยัดเวลา และลดค่าใช้จ่ายได้ โดยสินทรัพย์ที่อยู่ระหว่างรอการขายในมือเรา หากเร่งทำประวัติที่ดินเสร็จเร็วเมื่อไหร่ ก็พร้อมประกาศขายที่ดินได้ทันที โดยหลักการเบื้องต้น แบมซื้อที่ดินมาบริหารและขายต่อภายใน 7 ปี แต่หากทำงานเร็ว จะร่นเวลาลงเหลือ 5 ปี คำนวณอัตราดอกเบี้ยที่กู้จากตลาดเงินปีละ 3% เท่ากับประหยัดดอกเบี้ยจายได้ 3% ในระยะเวลา 2 ปี หรือ 6% จากปัจจุบัน แบมมีต้นทุนดอกเบี้ย รวมถึงหนี้สินที่รวมหุ้นกู้ประมาณ 80,000 ล้านบาท”
นายบัณฑิต กล่าวว่าปัจจุบันแบมมีทรัพย์สินรอการขายทุกประเภท ทั้งที่ดินเปล่า บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ อาคารพาณิชย์ อาคารชุด หลากหลายทำเลครอบคลุมในทุกภูมิภาคของประเทศไทย มากกว่า 20,000 รายการ มูลค่ารวมกว่า 60,000 ล้านบาท ซึ่งเงินจำนวนนี้ หากซื้อมาและขายไปได้เร็วและมากเท่าไหร่ สภาพคล่องของแบมก็จะมีมากขึ้นกำไรก็มากขึ้นตามไปด้วย
นายบัณฑิต กล่าวว่า การร่วมมือกับไปรษณีย์ไทยในครั้งนี้ ยังถือเป็นแผนรับรองการรับซื้อหนี้ในอนาคต ซึ่งคาดว่า ปีนี้จะมีสถาบันการเงินขายหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) เข้าสู่ระบบประมาณ 200,000-300,000 ล้านบาท เนื่องจากลูก หนี้ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัส โควิด19 ส่วนมูลหนี้ที่ขายออกมาจริงๆ มีเท่าไหร่ ยังไม่สามารถประเมินได้ เพราะล่าสุดธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ไฟเขียวให้สถานบันการเงินและบริษัทบริหารสินทรัพย์สามารถทำกิจการร่วมค้า หรือ Joint Venture ได้แล้ว และล่าสุด แบมกำลังเจรจากับสถาบันการเงินพันธมิตรร่วมกับทำ Joint Venture
นายดนันท์ สุภัทรพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด กล่าวถึงความร่วมครั้งนี้ว่า ไปรษณีย์ไทยมีความพร้อมในการสนับสนุนการดำเนินงานของแบมอย่างเต็มที่ ซึ่งได้ใช้ความพร้อมด้านเครือข่ายที่ครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศ มากกว่า 10,000 แห่ง ประกอบกับศักยภาพของบุคลากร เครือข่ายพนักงานไปรษณีย์กว่า 20,000 คน ที่มีความเชี่ยงชาญ รู้ลึก รู้จริง และเข้าถึงในทุกพื้นที่เพื่อทำหน้าที่สำรวจสินทรัพย์ของ แบมที่มีอยู่ทั่วประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมไปถึงความร่วมมือประชาสัมพันธ์ทรัพย์สิน และกิจกรรมของแบมผ่านช่องทางสื่อประชาสัมพันธ์ต่างๆ ของไปรษณีย์ไทยเพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนและต่อยอดทางธุรกิจให้แก่แบมด้วย