ข่าวเด่น ข่าวดัง วันที่ 7-8 ก.พ.2565
ผลสำรวจของ “นิด้าโพล” ล่าสุด ถามคน กทม.ว่าอยากได้ใครเป็นผู้ว่าฯ อันดับ 1 ร้อยละ 37.24 ระบุว่าเป็น ดร.ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ อันดับ 2 ร้อยละ 12.09 ระบุว่าเป็น พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง อันดับ 3 ร้อยละ 11.03 ระบุว่าเป็น ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ (พรรคประชาธิปัตย์) อันดับ 4 ร้อยละ 8.31 ระบุว่า ผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทย อันดับ 5 ร้อยละ 8.08 ระบุว่าเป็น ดร.วิโรจน์ ลักขณาอดิศร (พรรคก้าวไกล) อันดับ 6 ร้อยละ 6.72 ระบุว่า ไม่ลงคะแนน ไม่เลือกใคร (Vote NO) อันดับ 7 ร้อยละ 5.59 ระบุว่า ยังไม่ตัดสินใจ อันดับ 8 ร้อยละ 3.55 ระบุว่าเป็น น.ส.รสนา โตสิตระกูล
เรื่องที่ 777 น่าสนใจตรงที่การจัดอันดับของ ดร.เอ้ สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ จากพรรคประชาธิปัตย์ ล่วงลงมาจากการสำรวจครั้งก่อนที่ได้อันดับ 2 มาเป็นอันดับ 3 ทั้งที่ ดร.เอ้ โหมลงพื้นที่อย่างหนัก แนะนำตัวให้เป็นที่จดจำของคน กทม.
อีกคนที่น่าสนใจคือ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง โดยในการสำรวจครั้งนี้มาเป็นอันดับ 2 ขยับขึ้นจากครั้งก่อนที่ได้อันดับ 3 โดยความน่าสนใจอยู่ตรงที่ พล.ต.อ.อัศวิน ยังไม่เคยประกาศตัวว่าจะลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าฯ กทม.เลยสักครั้ง แต่คะแนนนิยมมาขนาดนี้ ก็นับว่า มีลุ้นเหมือนกัน
สำหรับผลสำรวจของนิด้าโพล คนเชียร์ให้เป็นผู้ว่าฯ กทม.ยืน 1 ตลอดกาลคือ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ อดีต รมว.คมนาคม ลงในนามอิสระ โดยในการสำรวจล่าสุดอยู่ที่ 37.24% แต่หากรวม 8.31 % ที่ประชาชนตอบว่าจะเลือกผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทยด้วย ก็นับว่าชัชชาติ นำโด่งเลยทีเดียว
เรื่องที่ 778 งานแถลงข่าวอลังการงานสร้างของกระทรวงพลังงานวันนี้ หลากหลายประเด็นจนผู้สื่อข่าวฟังกันแทบไม่ถูก เพราะมีหลากหลายประเด็นยิบย่อย ส่วนมาตรการชัดเจนที่จะดูแลพลังงานยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ ต้องรอให้ถึงเวลานั้นเสียก่อน พระเอกของกระทรวงอย่าง “พี่พงษ์-สุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาวน์” รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน จะเป็นผู้แถลงไขด้วยตนเอง ประเด็นก็คงถึงบางอ้อเสียทีว่าเหตุใด วันนี้ในรายชื่อยาวเหยียดของผู้มาร่วมแถลงข่าววันนี้จึงไม่มีชื่อของพี่พงษ์มาร่วมงานนะขอรับแฟนคลับ
เรื่องที่ 779 ส่วนพระรองของกระทรวงพลังงาน อย่าง “พี่กบ-กุลิศ สมบัติศิริ” ปลัดกระทรวงพลังงาน วันนี้ขึ้นแท่นพระเอกชั่วคราว ตอบชัดหลายประเด็นทั้งเรื่องราคาน้ำมันดีเซลที่ทางม็อบรถบรรทุกเรียกร้องขอมาให้อยู่ที่ระดับ 25 บาทต่อลิตรคงทำให้ไม่ได้แน่นอน เพราะเวลาใช้เงินจากกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงดูแลไปแล้วกว่า 7,000 ล้านบาทต่อเดือน จากความพยายามตรึงราคาไว้ที่ 30 บาทต่อลิตร ให้ดูแลเพิ่มเติมอีกจากราคาน้ำมันดีเซลจริงที่จ้องจำหน่ายที่ 34 บาทต่อลิตร ก็ไม่รู้จะหาแหล่งเงินมาจากไหน
ขณะที่กลุ่มผู้ใช้ก๊าซหุงต้มภาคครัวเรือนก็ต้องพบกับข่าวร้ายเสียแล้วล่ะ เพราะพี่กบประกาศลั่นชัดเจนว่าหลังเดือนมี.ค.นี้ คงจะไม่ตรึงราคาไว้ที่ 318 ต่อถึง 15 กิโลกรัมอีกต่อไป คงจะปล่อยให้ขึ้นตามกลไกลของตลาดแบบขั้นบันได แต่ผู้ที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐจะยังได้รับการดูแลอยู่ นานๆ กระทรวงพลังงานจะออกโรงที บก. ชวนคุยขอยกพื้นที่ให้เต็มที่เลยขอรับเจ้านาย
เรื่องที่ 780 ช่วงนี้ ธนาคารออมสินเป็นข่าวบ่อยมาก เรียกแขกเข้ามาชม เข้ามาติดตามได้ตลอดทั้งสัปดาห์ ล่าสุด “เต๋-วิทัย รัตนากร” ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน ประกาศเสียงดังชัด ตั้งแน่นอน “นอนแบงก์” โดยธนาคารออมสินจะใส่ทุนประเดิม 1,000 ล้านบาท ถือหุ้นในองค์กรใหม่ 85% ตกเป็นรัฐวิสาหกิจน้องใหม่ในสังกัดของกระทรวงการคลัง เพื่อเข้ามาทำกิจการเชิงพาณิชย์หวังลดภาระดอกเบี้ยให้แก่ลูกค้าตาดำๆ ที่เสียอัตราดอกเบี้ยสูงในตลาดมืด และเงินกู้นอกระบบแล้วยังจะแข่งกับเอกชน ยึดหัวหาดลดอัตราดอกเบี้ยลง ไม่ได้หวังกำไรสูงๆ เหมือนกับนอนแบงก์ของภาคเอกชน “นอนแบงก์” มีข้อดีที่เห็นชัดเจน 2-3 ประการที่สำคัญสุดคือ 1.ไม่ต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน และ 2.ไม่ตรวจสอบเครดิตบูโร
ผลงานล่าสุด “มีที่มีเงิน” 2 โครงการหลักไฟเขียวจากรัฐบาล และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ปล่อยกู้ไปแล้ว 20,000 ล้านบาทหมดเกลี้ยง แต่ขณะนี้ อยู่ระหว่างดำเนินโครงการเฟสที่ 3 อีก 10,000 ล้านบาท รวมเป็นวงเงิน 30,000 ล้านบาท ภารกิจของธนาคารออมสินเรื่องดังกล่าว หลังจากนี้ จะเป็นหน้าที่ของนอนแบงก์ แถมยังพร้อมลุย “ธุรกิจขายฝากที่ดิน” และ “สินเชื่อส่วนบุคคล” งานนี้ เดือดแน่นอน รับรองเอกชนที่กินตลาดนี้ มานาน ร้องเสียงหลงแน่นอน เพราะเสือนอนทำไม่ได้อีกแล้ว หลังจากที่ธนาคารออมสินร่วมลงทุนกับ “บริษัท ศรีสวัสดิ์ คอปอเรชั่น” ตั้งบริษัท เงินสดทันใจ ปล่อยสินเชื่อจำนำทะเบียนรถจักรยานยานต์ ลดอัตราดอกเบี้ยจาก 28% ลดลงเหลือ 18% ต่อปี แค่ “เต๋” ก็โดนกระแสถล่มอย่างหนัก เพราะรอบนี้ ลุยไปแล้ว ทำให้กำไรเอกชนที่รับจำนำรถจักรยานยนต์ลดลงหลายพันล้านบาทต่อปี
ขณะที่ ผลดำเนินงานปี2564 ธนาคารออมสินมีกำไรกว่า 25,000 ล้านบาท ปล่อยสินเชื่อเข้าสู่ระบบมากว่า 5.9 แสนล้านบาท ไม่เบา ไม่เบา…
เรื่องที่ 781 ไม่ใช่ความผิดของ “แพต-แพตริเซีย มงคลวนิช” ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารระ (สบน.) ล่าสุด หนี้สาธารณะขยับขึ้นมาอยู่ที่ 9,644,256 ล้านบาท หรืออ่านง่ายๆ คือ 9.6 ล้านล้านบาท คิดเป็น 59.57% ของจีดีพี เกือบ10ล้านล้านบาท แล้วนะจ๊ะ!! ส่วนใครจะรับผิดชอบหนี้ที่เพิ่มขึ้น งานนี้ หาคนมารับยาก นอกจาก “แพะ” เท่านั้น หาง่ายที่สุดครับ น้องแพต!!
โดยนพวัชน์