ทรัมป์ชี้ปกป้องทรัพย์สินทางปัญญาสหรัฐฯ
เมื่อวันที่ 30 ม.ค.ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯ ให้คำมั่นที่จะปกป้องทรัพย์สินทางปัญญาของอเมริกัน โดยเอ่ยถึงจีนเพียงเล็กน้อย หลังจากคณะทำงานของเขาเคยกล่าวหาว่ามีการค้าที่ไม่เป็นธรรมกับสหรัฐฯ ในการแถลงนโยบายประจำปีต่อสภาคองเกรส
คาดการณ์ว่าผู้นำสหรัฐฯ มุ่งหวังว่าการแถลงนโยบายครั้งนี้จะเป็นการส่งคำเตือนไปยังประเทศต่างๆ เกี่ยวกับการค้าที่ไม่ยุติธรรม รวมทั้งการขโมยทรัพย์สินทางปัญญาและการที่รัฐบาลให้การอุดหนุนอุตสาหกรรม
ทั้งนี้ ความเห็นเกี่ยวกับการค้าในการแถลงนโยบายครั้งนี้ มีหลายประโยคที่เขาข้าม หรือจงใจละเว้นที่จะเอ่ยถึงจีน ซึ่งประธานาธิบดีทรัมป์พูดซ้ำๆว่า การค้าที่ยุติธรรมซึ่งกันและกันเป็นเรื่องจำเป็น
“ เราจะทำงานเพื่อแก้ไขดีลการค้าที่แย่ๆ และเจรจาในกรอบข้อตกลงใหม่ เราจะปกป้องแรงงานอเมริกัน และทรัพย์สินทางปัญญาของอเมริกัน ผ่านการบังคับใช้กฎระเบียบทางการค้าของเรา ” ประธานาธิบดีทรัมป์กล่าว
ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีทรัมป์ขู่จะถอนสหรัฐฯ ออกจากข้อตกลงทางการค้าต่างๆ เช่น ข้อตกลงการค้าเสรีอเมริกาเหนือ หรือ NAFTA ที่ทำไว้กับแคนาดาและเม็กซิโก และข้อตกลงการค้าเสรีสหรัฐฯ – เกาหลีใต้ นอกเสียจากจะเป็นการสนับสนุนการผลิตในสหรัฐฯ และงานของชาวอเมริกัน
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เขาประกาศการปรับขึ้นภาษีศุลกากรในการนำเข้าเครื่องซักผ้าและแผงโซลาร์เซลล์ ซึ่งเป็นความเคลื่อนไหวทางการค้าครั้งสำคัญครั้งแรกนับตั้งแต่การถอนสหรัฐฯ ออกจากข้อตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก หรือ TPP เพียงไม่กี่สัปดาห์หลังจากเขาเข้ารับตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯ ในปีที่แล้ว
นอกจากนี้ ทรัมป์กำลังพิจารณาปรับขึ้นภาษีศุลกากร หรือ โควต้ากับการนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียมหลังจากการสอบสวนของของกระทรวงพาณิชย์พบว่า การนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียมในปริมาณเพิ่มขึ้นเป็นภัยต่อความมั่นคงของประเทศ
ในการกล่าวแถลงนโยบายของเขา ทรัมป์อ้างถึงจีนสั้นๆ ในกลุ่มประเทศคู่แข่งที่สั่นคลอนผลประโยชน์ คุณค่า และเศรษฐกิจของสหรัฐฯ กระตุ้นให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศของจีนกล่าวว่า สหรัฐฯ ควรยกเลิกการทำสงครามเย็นทางประสาทและความคิดแบบเกมที่ล้าสมัย
“ จีนและสหรัฐฯ มีผลประโยชน์ที่กว้างขวางและสำคัญร่วมกัน ” โฆษกกระทรวงต่างประเทศของจีนกล่าวในการแถลงข่าวที่กรุงปักกิ่งเมื่อวันที่ 31 ม.ค.เมื่อถูกถามเกี่ยวกับคำพูดของผู้นำสหรัฐฯ โดยเสริมว่า ผลประโยชน์เหล่านั้นใหญ่กว่าความแตกต่างของทั้งสองประเทศ
พันธมิตรเพื่อผู้ผลิตอเมริกัน (AAM) ซึ่งเป็นกลุ่มตัวแทนของอุตสาหกรรมเหล็กและอุตสาหกรรมพื้นฐานอื่นๆ ขานรับคำแถลงนโยบายของทรัมป์เกี่ยวกับการค้า แต่เรียกร้องให้มีผลในทางปฏิบัติมากขึ้นเพื่อให้สามารถแข่งขันได้กับการนำเข้าสินค้าจากจีน
“ การแถลงนโยบายครั้งนี้จะไม่สามารถเปลี่ยนพฤติกรรมของจีน และปกป้องงานของชาวอเมริกันได้จริง การลงมือทำเท่านั้นที่จะช่วยได้ ถึงเวลาแล้วที่นโยบายและการลงมือทำจะเป็นไปตามที่เขาพูด ” Scott Paul ประธาน AAM กล่าว