สหรัฐฯ เชื่อธุรกิจในจีนยังโตได้อีก
บริษัทของสหรัฐฯ มีความเชื่อมั่นมากขึ้นว่าจีนจะเปิดกว้างให้กับการลงทุนจากต่างประเทศในช่วงไม่กี่ปีต่อจากนี้ นักธุรกิจชั้นนำรายหนึ่งกล่าวเมื่อวันที่ 30 ม.ค.ที่ผ่านมา
หอการค้าอเมริกันในจีนยังระบุในแถลงการณ์ว่า จากผลสำรวจความเห็นของสมาชิกประจำปีถึงการเปิดกว้างในบรรยากาศการลงทุนของจีนว่าจะช่วยลดความขัดแย้งระหว่างจีนกับสหรัฐฯลงได้
“หลังจากหลายปีของความขัดแย้ง หลายบริษัทมีการขยายการลงทุนในจีน แม้การเติบโตในการลงทุนจะยังคงชะลอตัวลงกว่าระดับที่เคยสูงเป็นประวัติการณ์ก่อนหน้านี้ก็ตาม” หอการค้าอเมริกันในจีนระบุ
แนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนยังคงเป็นไปในแง่บวก โดย 46% ของผู้ตอบแบบสำรวจแสดงความเชื่อมั่นว่ารัฐบาลจะเปิดตลาดจีนให้กว้างต้อนรับการลงทุนจากต่างชาติภายใน 3 ปีหน้า เพิ่มขึ้น 34% จากผลการสำรวจเมื่อปีก่อน
แต่ทางหอการค้าชี้ว่า ผลการสำรวจนี้จัดทำขึ้นในช่วงเดือนต.ค.- พ.ย. ปี 2560 โดยสมาชิก 411 รายจากสมาชิกทั้งหมด 849 ราย โดยไม่ได้รวมถึงบริษัทที่นับไม่ได้หลายแห่งเพราะพวกเขาถูกปรับออกจากตลาดจีนเพราะละเมิดกฎระเบียบที่เคร่งครัด
หอการค้าอเมริกันยังระบุว่า การไปเยือนจีนของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ในเดือนพ.ย.ปีที่แล้ว อาจช่วยหนุนความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯกับจีนให้รุดหน้าในอนาคต โดยตัวเลขเพิ่มขึ้นเป็น 36% จากเดิม 17% ในผลสำรวจปีก่อน
แม้ประธานาธิบดีทรัมป์จะมีท่าทีแข็งกร้าวขึ้นหลังการเยือนจีน แต่ยังไม่ส่งผลกระทบสำคัญที่ทำให้เกิดการขัดแย้งด้านการค้า โดยเขากล่าวว่า เขากำลังพิจารณามาตรการปกป้องจากการถูกขโมยทรัพย์สินทางปัญญาจากจีน
คณะทำงานของทรัมป์กล่าวว่า สหรัฐฯ ผิดพลาดในการสนับสนุนจีนให้เป็นสมาชิกขององค์การการค้าโลกในปี 2544 ในเงื่อนไขที่ไม่อาจบังคับให้จีนเปิดกว้างระบบเศรษฐกิจของประเทศได้
“มีความรู้สึกว่าความเข้มงวดเป็นเพียงแค่คำพูด ไม่มีผลจริงในทางปฏิบัติ บางทีความกดดันอาจช่วยให้เราดำเนินกิจการให้ก้าวหน้าเพื่อปรับสมดุลเศรษฐกิจ และความสัมพันธ์ทางการค้าให้ดีขึ้นได้” William Zarit ประธานหอการค้ากล่าวให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวเมื่อถูกถามเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่ผู้นำสหรัฐฯ จะปรับขึ้นภาษีศุลกากรเพิ่มขึ้นกับจีน
โดยมีตัวเลข 46% ของผู้ตอบแบบสำรวจที่อยากลงทุนเพิ่มขึ้นเพื่อปรับปรุงการเข้าถึงตลาดจีน และนักลงทุนมองว่ารัฐบาลสหรัฐฯสามารถช่วยตรงนี้ได้ ขณะที่มีตัวเลข 59% ของบริษัทเทคโนโลยีและภาคส่วนวิจัยและพัฒนาที่ระบุว่า พวกเขาได้รับการปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรมเมื่อเทียบกับบริษัทของจีนเอง
“เรามองเห็นนโยบายจำนวนมากที่บั่นทอนการลงทุนของบริษัทต่างชาติ และทำให้ตลาดสำคัญบิดเบือน เพื่อบีบให้มีการถ่ายทอดเทคโนโลยีให้จีน” รายงานของหอการค้าที่อ้างถึงความเห็นของนักลงทุนสหรัฐฯ ในธุรกิจการเกษตรของจีน.