เกาหลีใต้ประณามทรัมป์ขึ้นภาษี
เกาหลีใต้ยื่นคำร้องต่อองค์การการค้าโลก (WTO) ในประเด็นการขึ้นภาษีศุลกากรของรัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ในการนำเข้าเครื่องซักผ้าจากต่างประเทศมาในสหรัฐฯ
“ เกาหลีพิจารณาแล้วว่ามาตรการภาษีนี้ขัดแย้งกับข้อผูกพันของสหรัฐฯ ” อ้างอิงจากข้อความที่ระบุในคำร้องที่ยื่นต่อ WTO ในนครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อวันที่ 24 ม.ค.ที่ผ่านมา
คาดการณ์ว่า อัตราภาษีศุลกากรใหม่ ซึ่งคิดในอัตรา 20% กับเครื่องซักผ้าที่นำเข้าสหรัฐฯ จะกระทบกับบริษัทผู้ผลิตยักษ์ใหญ่จากเกาหลีใต้ทั้งบริษัทซัมซุงและ LG อย่างรุนแรง
การตัดสินใจจากเกาหลีใต้ที่จะโต้แย้งภาษีศุลกากรใหม่ (ซึ่งเป็นไปตามที่มีการคาดการณ์) เป็นสัญญาณล่าสุดถึงความตึงเครียดที่เกิดขึ้นกับสหรัฐฯ และประเทศคู่ค้าสำคัญ ซึ่งรวมถึงพันธมิตรที่ใกล้ชิด โดยจีนเข้าร่วมกับเกาหลีใต้ในการประณามภาษีศุลกากรนี้ เนื่องจากสหรัฐฯ มีการปรับขึ้นภาษีศุลกากรในการนำเข้าแผงโซลาร์เซลล์เช่นกัน และจีนเป็นประเทศผู้ผลิตแผงโซลาร์เซลล์รายใหญ่
ในการมาร่วมประชุม World Economic Forum ในเมืองดาวอส สวิตเซอร์แลนด์เมื่อวันที่ 25 ม.ค. ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กล่าวให้สัมภาษณ์กับสื่อ CNN ว่า เขามาพร้อมกับข้อความว่า “ สันติภาพและความั่งคั่ง ”
“ หลายประเทศไปได้ดีมากๆ กับระบบการค้าเสรี แต่แท้จริงแล้วเป็นการกีดกันทางการค้าอย่างสุดขั้ว นี่เป็นปัญหาซึ่งท่านประธานาธิบดีตั้งใจให้เป็นดีลเช่นนี้ ” วิลเบอร์ รอสส์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐฯ กล่าวกับผู้สื่อข่าวเมื่อวันที่ 24 ม.ค.ที่ผ่านมา โดยการกล่าวสุนทรพจน์ที่ดาวอส รัฐมนตรอสส์กล่าวว่า การท้าทายทางการค้ากับจีนครั้งต่อไปจะเกี่ยวกับเทคโนโลยีใหม่ๆ
นอกจากนี้ ประธานาธิบดีทรัมป์จะตัดสินใจว่าจะขึ้นภาษีศุลกากรในการนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียมภายใน 90 วันอีกด้วย และยังขู่ว่าจะถอนสหรัฐฯ ออกจากข้อตกลงการค้าเสรีอเมริกาเหนือ หรือ NAFTA หากไม่พอใจกับผลของการเจรจาในการปรับเปลี่ยนเงื่อนไขกับทางแคนาดาและเม็กซิโก
รัฐมนตรีในคณะรัฐบาลของประธานาธิบดีทรัมป์ต้องปกป้องเรื่องภาษีศุลกากรใหม่ในดาวอส เนื่องจากกลุ่มผู้ว่าธนาคารกลาง รัฐบาลและยักษ์ใหญ่ทางการเงินจากหลายประเทศล้วนชื่นชมระบบการค้าเสรี โดยรัฐมนตรีรอสส์ กล่าวกับผู้ฟังในห้องประชุมเมื่อวันที่ 24 ม.ค.ว่า ภาษีศุลกากรไม่ได้เป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจ และเขาปฏิเสธว่า สหรัฐฯ กำลังกำหนดทิศทางในการกีดกันทางการค้า
“ เราต้องการเป็นผู้นำในการทำให้ระบบการค้าของโลกมีความเป็นธรรมมากยิ่งขึ้น และเท่าเทียมกันมากขึ้นกับประเทศคู่ค้าทั้งหมด นี่ไม่ใช่การขาดความเป็นผู้นำ ” รอสส์กล่าว
ข้อความนี้ก่อให้เกิดความกังขาในดาวอส เนื่องจากบรรดาผู้นำทางธุรกิจและการเมืองล้วนปกป้องระบบโลกาภิวัตน์และการค้าเสรี
“ เราคิดว่า การปิดตัวเองจากโลกภายนอก การแยกตัวเองเป็นเอกเทศจะไม่ทำให้เรามีอนาคตที่ดี การกีดกันทางการค้าไม่ใช่คำตอบ ” นายกรัฐมนตรีอังเกลา แมร์เคิลแห่งเยอรมนีกล่าวเมื่อวันที่ 24 ม.ค.
และยังมีเสียงสะท้อนมาจากคริสตีน ลาการ์ด กรรมการผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ IMF ซึ่งกล่าวว่าการค้าที่น้อยลงจะกระทบการเติบโต
“ มาตรการใดๆที่พยายามจะชะลอการค้าลง เป็นเรื่องที่น่ากังวล ” เธอกล่าวเมื่อวันที่ 24 ม.ค.