ทรัมป์เตือนดาวอสเรื่องการค้าไม่เป็นธรรม
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯส่งต่อข้อความ ‘อเมริกา เฟิร์สท์’ ให้กับกลุ่มผู้นำระดับโลกเมื่อวันที่ 26 ม.ค. โดยกล่าวกับบรรดาผู้นำทางธุรกิจและการเมืองว่า สหรัฐฯ จะไม่ยอมทำเป็นตาบอดอีกต่อไปกับสิ่งที่เขาเรียกว่า การค้าที่ไม่เป็นธรรม
ประธานาธิบดีทรัมป์เป็นประธานาธิบดีของสหรัฐฯ คนแรกที่เข้าร่วมในการประชุมของบรรดามหาเศรษฐีและผู้ทรงอิทธิพลที่สกีรีสอร์ทของเมืองดาวอสนานถึง 18 ปี และกล่าวปิดประชุมด้วยการกล่าวสุนทรพจน์ว่า สหรัฐฯ เปิดกว้างสำหรับธุรกิจ
“ ปัจจุบันเป็นเวลาที่ดีที่สุดที่จะนำเงินของคุณ งานของคุณ ธุรกิจของคุณมาที่อเมริกา ” ผู้นำสหรัฐฯกล่าว เนื่องจากสหรัฐฯมีการลดภาษีนิติบุคคลและลดขั้นตอนความยุ่งยากเพื่อสนับสนุนบรรยากาศในการลงทุน “ โลกกำลังเป็นพยานให้กับการฟื้นตัวที่แข็งแกร่งและรุ่งเรืองของอเมริกา ”
เขากล่าวว่า เขาจะส่งเสริมนโยบาย ‘อเมริกา เฟิร์สท์’ โดยเขาคาดการณ์ว่าผู้นำระดับโลกคนอื่นจะทำได้ในนามของประเทศตัวเอง แต่เสริมว่า
“ อเมริกา เฟิร์สท์ไม่ได้หมายความว่าอเมริกาจะโดดเดี่ยว เมื่ออเมริกาเติบโต โลกก็จะเติบโตตามไปด้วย”
แต่เขาเปลี่ยนประเด็นอย่างรวดเร็วไปที่ความต้องการให้มีการเข้มงวดกับกฎระเบียบในการค้า โดยกล่าวหาประเทศที่มีการค้าที่ไม่เป็นธรรม แต่ไม่ได้เจาะจง นอกจากนี้ ยังกล่าวถึงการขโมยทรัพย์สินทางปัญญาและความช่วยเหลือจากภาครัฐที่มีต่ออุตสาหกรรม
“ เราจะบังคับใช้กฎหมายทางการค้าของเรา และบูรณาการระบบการค้า โดยยืนยันถึงการค้าและการค้าระหว่างกันที่เราสามารถสร้างระบบที่จะส่งผลไม่เพียงแต่สหรัฐฯ เท่านั้น แต่ส่งผลกับทุกประเทศด้วย ” ผู้นำสหรัฐฯ กล่าว
“ สหรัฐฯ จะไม่ทำเป็นตาบอดกับการค้าที่ไม่เป็นธรรมอีกต่อไป เราไม่สามารถมีการค้าเสรีและเปิดกว้างได้ ถ้าบางประเทศยังคงฉกฉวยประโชน์จากประเทศอื่น ”
ประธานาธิบดีทรัมป์เป็นผู้ที่ต่อต้านการทำข้อตกลงทางการค้าของหลายประเทศร่วมกัน เขากล่าวว่าสหรัฐฯ จะทำข้อตกลงการค้าทวิภาคีเป็นประเทศๆไป โดยเขาได้ถอนสหรัฐฯออกมาจากการทำข้อตกลงการค้าเสรี TPP โดยเสริมว่า เขาจะพิจารณาการเจรจาข้อตกลง TPP อีกครั้งหากเป็นผลประโยชน์ที่ดีขึ้นกับสหรัฐฯ
ก่อนทริปการมาเยือนดาวอส ประธานาธิบดีทรัมป์ได้อนุมัติให้สหรัฐฯ ปรับขึ้นภาษีศุลกากร 30% ในการนำเข้าแผงโซลาร์เซลล์และเครื่องซักผ้า ซึ่งเป็นการทำตามกรอบนโยบายการกีดกันทางการค้าที่เพิ่มขึ้น
การเปิดตัวของคณะทำงานของประธานาธิบดีทรัมป์ที่เมืองดาวอสก่อให้เกิดความปั่นป่วนไปทั่ว เพราะมีความเห็นจาก Steven Mnuchin รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ซึ่งกล่าวเมื่อต้นสัปดาห์ว่า สหรัฐฯได้ประโยชน์จากเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่า ทำให้การส่งออกสินค้ามีราคาถูกลง
ความเห็นของรัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ ทำให้ค่าเงินดอลลาร์ผันผวนและประธานธนาคารกลางยุโรปและหลายประเทศมองว่า การที่สหรัฐฯ ลดค่าเงินดอลลาร์ลงเป็นการละเมิดกฎที่ไม่ได้มีการเขียนไว้เพื่อให้การค้าสมดุล
เมื่อวันที่ 25 ม.ค. ทรัมป์กล่าวว่า เขาอยากให้เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น ทางการสหรัฐฯระบุว่า ไม่ได้มีความขัดแย้งกันระหว่างประธานาธิบดีทรัมป์และรัฐมนตรีคลัง Mnuchin และรัฐมนตรีคลังเพียงแต่พูดถึงผลสำรวจของผลกระทบจากเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง ไม่ได้เป็นการประกาศแนวโน้มนโยบายที่จะลดค่าเงินดอลลาร์ลงแต่อย่างใด.
