เศรษฐกิจจีนโต 6.9%
เศรษฐกิจจีนเติบโต 6.9% ในปี 2560 เป็นการจบปีด้วยตัวเลขที่ดีกว่าการคาดการณ์ของรัฐบาล ซึ่งก่อนหน้านี้เคยตั้งเป้าไว้ที่ 6.5% อ้างอิงจากรายงานของสำนักงานสถิติแห่งชาติเมื่อวันที่ 18 ม.ค.
โดยเศรษฐกิจของจีนยังคงเติบโต แม้จะมีความกังวลในปีที่แล้วเกี่ยวกับปัจจัยเสี่ยงด้านการเงินของจีน ในระหว่างการดำเนินการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจประเทศของรัฐบาล
“เป็นความจริงที่ว่าเศรษฐกิจบางส่วน ซึ่งเป็นเศรษฐกิจแบบเก่า ทั้งอุตสาหกรรมหนัก และที่เกี่ยวกับภาคอสังหาฯชะลอตัวซบเซาลง แต่ยังมีส่วนอื่นที่เป็นเศรษฐกิจใหม่ เช่น ภาคบริการ และภาคการผลิต อุตสาหกรรมไฮเทค ซึ่งชี้ให้เห็นความแข็งแกร่งที่ยังคงอยู่ในข้อมูลนี้” Duncan Wrigley ประธานฝ่ายกลยุทธ์ ที่ Everbright Sun Hung Kai ให้ความเห็น
ในปี 2560 ถือว่าเป็นการฟื้นตัวที่ดีขึ้นของเศรษฐกิจ เนื่องจากตัวเลขจีดีพีของจีนอยู่ที่ 6.7% ในปี 2559 ซึ่งเป็นตัวเลขที่ต่ำที่สุดในรอบ 26 ปี
ในไตรมาส 4 ของปี 2560 จีดีพีอยู่ที่ 6.8% สูงกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ 6.7% และสูงกว่าไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า อ้างอิงจากโพลล์วิเคราะห์ของรอยเตอร์
ทางการจีนตั้งเป้าจีดีพีของปี 2560 ที่ประมาณ 6.5% แต่ผลที่ออกมาสร้างความประหลาดใจ โดยจีนโพสต์ข้อมูลเศรษฐกิจที่เป็นขาขึ้นว่าเกิดจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจทั่วโลก
ทั้งนี้ โพลล์ของนักเศรษฐศาสตร์จากรอยเตอร์ทำนายว่าจีนจะมีการเติบโตทางเศรษฐกิจชะลอตัวลงมาอยู่ที่ 6.5% ในปี 2561 นี้ ในส่วนของจีนเองตั้งเป้าตัวเลขการเติบโตอยู่ที่ประมาณ 6.5% ในปี 2561 ไม่เปลี่ยนแปลงจากตัวเลขของปี 2560 อ้างอิงจากรายงานของรอยเตอร์ในเดือนนี้ แต่ไม่ได้ระบุแหล่งข่าว
เศรษฐกิจของจีนกำลังผ่านช่วงการปรับเปลี่ยนโครงสร้างมาเป็นเศรษฐกิจใหม่ อย่างอีคอมเมิร์ซและบริการทางการเงินออนไลน์ ขณะที่เศรษฐกิจเก่าเองยังมีความโดดเด่นอยู่ Chi Lo นักเศรษฐศาสตร์ที่ดูแลจีนแผ่นดินใหญ่ประจำ BNP Paribas Investment Partners ให้ความเห็น
จีนต่อสู้กับภาระหนี้มานานหลายปี เพื่อพยายามปรับเสถียรภาพเศรษฐกิจให้สมดุล Sian Fenner นักเศรษฐศาสตร์ประจำ Oxford Economics กล่าวว่า “รัฐบาลกำลังเคลื่อนไหวเพื่อให้แน่ใจว่า จีนจะปรับสมดุลจากการลงทุนที่มีนโยบายที่เข้มงวดเพื่อลดความเสี่ยงในภาคการเงิน ซึ่งแปลว่าการลงทุนจะชะลอตัวลงในปีนี้” และเธอเองคาดการณ์ว่า การลงทุนภาคอสังหาฯของจีนจะชะลอตัวลงในปีนี้
ปัจจัยเสี่ยงต่อเศรษฐกิจของจีนในปี 2561 ยังรวมถึงการถูกกีดกันทางการค้าจากนโยบายการบริหารประเทศของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ที่ต้องการปรับให้ตัวเลขที่สหรัฐฯ ขาดดุลการค้ากับจีนลดลง.