สินค้าแบรนด์หรูฟื้นตัวในจีน
ยอดขายกระเป๋าแบรนด์ Gucci จนถึงเครื่องสำอาง Chanel ในประเทศจีน ซึ่งต้องดิ้นรนกับสภาวะที่ยากลำบากมานานหลายปี ขยายตัวเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงปีล่าสุด และมีแนวโน้มจะเติบโตอย่างต่อเนื่องในปี 2561 นี้อ้างอิงจากบริษัทที่ปรึกษา Bain & Co
โดยยอดขายสินค้าหรูหราในจีนพุ่งขึ้นเป็น 142,000 ล้านหยวน หรือราว 719,940 ล้านบาท ในปี 2560 เพิ่มขึ้นประมาณ 20% จากปี 2559 อ้างอิงจากรายงานของ Bain & Co เมื่อวันที่ 17 ม.ค. นับเป็นการเติบโตอย่างแข็งแกร่งที่สุดนับตั้งแต่ปี 2554 ซึ่งในเวลานั้น สินค้าราคาแพงเริ่มถูกกระทบจากเศรษฐกิจที่ชะลอตัวและการปราบปรามการคอร์รัปชันจากรัฐบาลจีนอย่างเข้มงวด
บรรดาขาช้อปในจีนเป็นนักช้อปสินค้าแบรนด์หรูหราทั่วโลก คิดเป็นสัดส่วนมากถึง 32% ของตลาดทั่วโลกที่มีมูลค่า 262,000 ล้านยูโรหรือราว 10.40 ล้านล้านบาทในปีที่แล้ว และเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญให้กับยอดขายแบรนด์ LVMH ของฝรั่งเศส Burberry และ Kering ซึ่งเป็นเจ้าของแบรนด์ Gucci
“จีนเป็นตลาดที่ทรงตัวมาตลอด 5 ปี แต่ปี 2560 กลับเติบโตพรวดพราดขึ้นถึง 20% เป็นการฟื้นตัวที่น่าทึ่งมาก” Bruno Lannes หุ้นส่วนที่เซี่ยงไฮ้ของ Bain กล่าว โดยเสริมว่า ราคาที่ลดลงและการสนับสนุนจากภาครัฐเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญ
ตัวเลขที่เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด มาจากการเติบโตที่แข็งแกร่งในสินค้าประเภทเสื้อผ้าสตรี เครื่องประดับ เครื่องสำอาง รองเท้า และกระเป๋าถือ ซึ่งสวนทางกับยอดขายที่ซบเซาในปี 2559 และที่เคยดิ่งเหวในปี 2558 และ 2557
ทั้งนี้ จีนผลักดันให้มีการใช้จ่ายในประเทศเพิ่มขึ้น มีการปราบปรามกลุ่มตัวแทนที่หิ้วของจากต่างประเทศเข้ามาขายในจีน และลดภาษีสินค้านำเข้าราคาแพงที่ขายในประเทศจีน
โดย Bain ระบุว่า ตลาดสินค้าราคาแพงของจีนมีการขยายตัวเติบโตขึ้นในปีนี้ เพราะได้แรงหนุนสำคัญจากคนหนุ่มสาวยุคมิลเลนเนียลและเสื้อผ้าสำเร็จรูป แม้อัตราการเติบโตมีแนวโน้มจะชะลอตัวลงในกลุ่มวัยรุ่นก็ตาม
การฟื้นตัวนี้ได้อานิสงส์จากผู้บริโภคที่เป็นคนยุคมิลเลนเนียลที่ชอบเทคโนโลยี อยู่ในวัย 20 – 34 ปี ซึ่งโดยทั่วไปชอบเสื้อผ้าสำเร็จรูปและสินค้าสไตล์แฟชั่นโฉบเฉี่ยวมากกว่ารูปแบบดั้งเดิม ช่วยเปิดพื้นที่ให้กับสินค้าลำลองสวมสบายแบรนด์หรูหราและเสื้อผ้ากีฬาแบรนด์ดัง
“นี่เป็นปรากฎการณ์ของตลาดที่ลูกค้าชาวจีนรุ่นใหม่เดินเข้ามา ในขณะที่ลูกค้าเก่าก็หวนกลับเข้ามาด้วย” Lannes กล่าว
ขณะที่แบรนด์ Hermes , LVMH ของฝรั่งเศส และ Kering ก็ฟื้นตัวขึ้นเช่นกันจากลูกค้าชาวจีน ซึ่งช่วยหนุนยอดขายทั่วโลกในปีที่แล้ว
Lannes เสริมว่า การเติบโตที่รวดเร็วทำให้เห็นว่า มีทั้งผู้ชนะและผู้แพ้ ขึ้นอยู่กับว่าใครจะเจาะตลาดคนหนุ่มสาวชาวจีนได้มากกว่ากัน
“ตลาดจีนใหม่กำลังเกิดขึ้น ด้วยกลุ่มผู้บริโภคที่ยังไม่มีอยู่เลยเมื่อ 5 ปีก่อน และพวกเขามีรูปแบบที่แตกต่าง ความคาดหวังที่แตกต่าง และรสนิยมที่แตกต่างจากเดิม” เขาให้ความเห็น.