คนดังปากีสถานเริ่มแคมเปญ # MeToo
ผู้หญิงชาวปากีสถานที่มีชื่อเสียงโด่งดัง 3 คนเป็นผู้นำในการเคลื่อนไหวทางสังคมแคมเปญ # MeToo ในประเทศ เพื่อให้ชาวปากีสถานตื่นตัวและตระหนักรู้หลังเกิดเหตุการณ์ข่มขืนและสังหารเด็กหญิงวัย 7 ปีอย่างทารุณในเมืองทางตะวันออกของประเทศเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
ฟรีฮา อัลทาฟ นางแบบและผู้จัดการงานอีเวนต์ นาเดีย จามิล นักแสดง และมาฮีน ข่าน แฟชั่นดีไซน์เนอร์ ต่างบอกเล่าประสบการณ์ที่พวกเธอเคยถูกล่วงละเมิดทางเพศในวัยเด็กบนโซเชียลมีเดีย และติด # MeeToo เข้าไปด้วย
ประเด็นการถูกข่มขืนและถูกล่วงละเมิดทางเพศ ซึ่งเป็นเรื่องที่แทบไม่มีการพูดถึงเลยในปากีสถาน ได้กลายมาเป็นประเด็นในการพูดคุยในระดับชาติในช่วงสัปดาห์นี้ จากข่าวเด็กหญิงวัย 7 ปีถูกข่มขืนและฆ่าโดยผู้ต้องสงสัยที่อาจเป็นฆาตกรต่อเนื่อง
การเสียชีวิตของหนูน้อยคนนี้ก่อให้เกิดการเดินขบวนประท้วงไปตามถนนด้วยความโกรธแค้นในเมืองคาซุล บ้านเกิดของเธอและเมืองลาฮอร์ เมืองหลวงของแคว้นปัญจาบ และเป็นประเด็นที่มีการจับตามองในประเทศปากีสถานซึ่งมีแนวคิดอนุรักษ์นิยม
นาเดีย จามิล ในวัยกว่า 40 ปีและอาศัยอยู่ในอังกฤษโพสต์บนทวิตเตอร์ เล่าถึงเหตุการณ์ที่เธอถูกล่วงละเมิดทางเพศตั้งแต่เธออายุแค่ 4 ปี “ฉันถูกล่วงละเมิดทางเพศโดยครูสอนศาสนา คนขับรถของฉัน และต่อมาก็ลูกชายครอบครัวที่มีการศึกษาสูงคนหนึ่ง ตอนนี้ฉันมีชีวิตแต่งงานที่มีความสุขกับนักธุรกิจในลอนดอน มันเป็นแบบเดียวกันหมด ผู้ชายล่วงละเมิดเหมือนกัน ครอบครัวอยากให้ฉันอยู่เงียบๆ แต่เรื่องน่าละอายไม่ใช่เพราะฉัน ฉันไม่เคยอาย”
การตัดสินใจของจามิลในการแชร์ประสบการณ์ที่เจ็บปวดบนโลกออนไลน์เป็นแรงบันดาลใจให้ฟรีฮา อัลทาฟทำเหมือนกัน ในการให้สัมภาษณ์กับสื่อ CNN เธอกล่าวว่า เธอตัดสินใจที่จะแชร์ประเด็นนี้ในโซเชียลมีเดียหลังจากเห็นโพสต์ของจามิล
ในทวิตเตอร์ อัลทาฟทวีตเล่าว่าเธอถูกล่วงละเมิดโดยพ่อครัวของเธอเมื่อเธออายุ 6 ปี
“ฉันถูกล่วงละเมิดทางเพศโดยพ่อครัวของบ้านเราตอน 6 ขวบ พ่อแม่ก็เอาเรื่อง แต่ทุกคนนิ่งเฉยราวกับเรื่องนี้เป็นเรื่องน่าละอายของฉัน ในวัย 34 ฉันตระหนักว่า เรื่องนี้ส่งผลกระทบกับชีวิตฉัน เรื่องน่าละอายอย่างเดียวคือการนิ่งเงียบมาตลอด”
ขณะเดียวกัน มาฮีน ข่าน ซึ่งเป็นหนึ่งในแฟชั่นดีไซเนอร์ที่ได้รับการยกย่องมากที่สุดในปากีสถานบอกเล่าประสบ
การณ์ของเธอบนทวิตเตอร์เช่นกัน โดยก่อนหน้านี้ เธอเคยคุยเรื่องนี้ในกลุ่มเฟซบุ๊กที่สนิทกัน จากโพสต์ของเธอที่ติด # MeToo ข่านเล่าว่าเธอถูกล่วงละเมิดโดยนักบวช
อัลทาฟบอกกับสื่อ CNN ว่า เธอหวังว่าเสียงของเธอจะช่วยเป็นกำลังใจให้ผู้คนกล้าที่จะก้าวออกมาข้างหน้า โดยเสริมว่าประเด็นเลวร้ายนี้ไม่ได้เกิดกับเด็กผู้หญิงเท่านั้น แต่ยังเกิดขึ้นกับเด็กชายจำนวนมากในประเทศด้วย
จากความเห็นของอัลทาฟ ปัญหาเกิดขึ้นพร้อมกับแนวความคิดในประเทศอนุรักษ์นิยม ซึ่งเรื่องเพศเป็นเรื่องที่ห้ามพูดถึง “เรื่องทางสังคม อะไรก็ตามที่เกี่ยวกับเซ็กส์ เป็นเรื่องต้องห้าม คุณพูดเรื่องนี้ไม่ได้ที่บ้าน ที่โรงเรียน กับเพื่อนๆ สามีของคุณ นี่เป็นประเทศที่เราอยู่กันมา”
อัลทาฟและข่านกล่าวว่า ผู้ชายบางคนที่มีตำแหน่งทางศาสนาใช้ข้อห้ามและการขาดความรู้เรื่องเพศมาฉวยโอกาสกระทำเรื่องเลวร้ายกับเด็ก เหมือนกับเรื่องฉาวทางเพศในโบสถ์คาธอลิก
ข่านกล่าวว่า เธอมองโลกในแง่ดีว่า ความเคลื่อนไหวครั้งนี้จะส่งผลให้มีการเปลี่ยนแปลง “เราต้องเคลื่อนไหวต่อ เรื่องนี้จะไม่เกิดขึ้นแค่ชั่วข้ามคืน มันอาจจะเริ่มจากจุดเล็กๆและเติบโตไปอย่างช้าๆ อาจต้องใช้เวลาหลายทศวรรษที่จะเปลี่ยนความคิดของคน”.