Airbus ถูกปรับคดีค้าขีปนาวุธไต้หวัน
เมื่อวันที่ 13 ม.ค.ที่่ผ่านมา บริษัท Airbus ระบุว่าทางบริษัทถูกปรับเป็นเงินมูลค่า 128 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 4,066 ล้านบาท เนื่องจากข้อพิพาทที่เกิดขึ้นโดยมีการขายขีปนาวุธให้กับไต้หวันเมื่อปี 2535 โดยกลุ่ม Matra ซึ่งภายหลังได้เข้าร่วมกับกลุ่มบริษัท Airbus เอง
โฆษกของทาง Airbus ได้กล่าวว่าในกรณีพิพาทกับทางไต้หวันนั้น เป็นเพียงประเด็นทางการค้าเท่านั้น ไม่เกี่ยวข้องกับข้อกล่าวหาเรื่องการทุจริตแต่อย่างใด
ทางบริษัท Airbus ซึ่งเพิ่งมีการตกลงที่จะขายเครื่องบิน A320 ให้กับจีนแผ่นดินใหญ่ 184 ลำ ภายในปี 2563 ได้ระบุในแถลงการณ์ว่า ได้รับคำสั่งให้จ่ายค่าปรับจำนวนดังกล่าว “ เนื่องจากถูกร้องเรียนเรื่องการละเมิดสัญญาด้านการค้าขีปนาวุธ ”
ทาง Matra Defence S.A.S ซึ่งได้เข้าร่วมกลุ่มกับ Airbus เมื่อปี 2541 กล่าวถึงส่วนของบริษัทว่า “ กำลังทำความเข้าใจกับค่าปรับดังกล่าว และจะทำการประเมินในขั้นตอนต่อไป ”
ด้านโฆษกของบริษัท Airbus ปฏิเสธที่จะให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกรณีดังกล่าวเมื่อทางนักข่าวของ AFP ติดต่อสอบถามไป
ในอีกกรณี ทางกลุ่มยุโรประบุว่า ขณะนี้อยู่ในระหว่างการเจรจากับอัยการในมิวนิคซึ่งอาจทำการปิดการสืบสวนในคดีความของประเทศเยอรมนีในข้อหาทุจริต ซึ่งเกี่ยวโยงไปถึงการค้าเครื่องบินเจ็ท Eurofighter ให้กับออสเตรีย
ในเดือน ก.พ. ทางออสเตรียได้ยื่นฟ้องบริษัท Airbus เนื่องจากการซื้อขาย Eurofighter เมื่อปี 2546 ซึ่งถูกกล่าวหาว่าข้อตกลงมีความคลุมเครือซึ่งกินระยะเวลายาวนาน จึงเรียกร้องค่าเสียหายทั้งหมด 1.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 38,124 ล้านบาท
ด้านกระทรวงกลาโหมของออสเตรียได้ระบุในขณะที่มีการฟ้องร้องคดีความต่อบริษัท Airbus และด้านกลุ่มผู้ร่วมทุน Eurofighter เนื่องจากเจตนาฉ้อโกงในการหลอกล่อทางออสเตรียเป็นค่าสั่งซื้อทั้งหมด 2 พันล้านยูโร หรือราว 77,491 บาท
ขณะนั้น ทาง Tom Enders หัวหน้าบริษัท Airbus กำลังดำรงตำแหน่งเป็นหัวหน้าแผนกป้องกันประเทศ ในบริษัทผลิตอากาศยานและระบบป้องกันประเทศของยุโรป หรือ EADS ซึ่งในภายหลังกลายเป็น Airbus Group เมื่อปี 2557
ในแถลงการณ์ของ Airbus ยังกล่าวเพิ่มอีกว่า “ เราจะเปิดเผยข้อสรุปทั้งหมดเมื่อการสืบสวนสิ้นสุดลง “